โปรแกรมนี้ใช้หาจำนวนเฉพาะทั้งหมดในช่วงตัวเลขที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา โปรแกรมจะตรวจสอบทีละตัวเลขว่าหารด้วย 2 ถึงตัวเลขที่น้อยกว่าตัวมันเองลงตัวหรือไม่ ถ้าหารลงตัว แสดงว่าไม่ใช่จำนวนเฉพาะ แต่ถ้าหารไม่ลงตัว แสดงว่าเป็นจำนวนเฉพาะ
จำนวนเฉพาะ คือจำนวนเต็มบวกที่มากกว่า 1 และมีตัวหารที่เป็นบวกอยู่ 2 ตัว คือ 1 กับตัวมันเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ จำนวนเฉพาะคือ จำนวนที่หารด้วย 1 กับตัวมันเองลงตัวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น 2, 3, 5, 7, 11, 13, 17, 19, 23, 29, 31, 37, 41, 43, 47, 53, 59, 61, 67, 71, 73, 79, 83, 89 ,97 เป็นจำนวนเฉพาะ
คุณสมบัติของจำนวนเฉพาะ:
- 1 ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ
- 2 เป็นจำนวนเฉพาะเพียงตัวเดียวที่เป็นจำนวนคู่
- จำนวนเฉพาะมีจำนวนอนันต์
- ทฤษฎีบทมูลฐานของเลขคณิตกล่าวว่า จำนวนเต็มบวกทุกตัวสามารถเขียนได้ในรูปผลคูณของจำนวนเฉพาะ และเขียนได้แบบเดียวเท่านั้น
ตัวอย่างการหาจำนวนเฉพาะ:
- 7 เป็นจำนวนเฉพาะ เพราะว่าหารด้วย 1 กับ 7 เท่านั้น
- 6 ไม่ใช่จำนวนเฉพาะ เพราะว่าหารด้วย 1, 2, 3, 6 ลงตัว
โค้ดคำสั่งภาษา Python
def is_prime(num):
# ฟังก์ชันนี้ตรวจสอบว่าตัวเลขที่ป้อนเข้ามาเป็นจำนวนเฉพาะหรือไม่
if num <= 1:
return False
for i in range(2, int(num**0.5) + 1):
if num % i == 0:
return False
return True
start_num = int(input("ป้อนตัวเลขเริ่มต้น: "))
end_num = int(input("ป้อนตัวเลขสิ้นสุด: "))
print("จำนวนเฉพาะในช่วง",start_num,"ถึง",end_num,"มีดังนี้ : ")
for num in range(start_num, end_num + 1):
if is_prime(num):
print(num)
คำอธิบายโค้ด
- ฟังก์ชัน
is_prime
:- ฟังก์ชันนี้รับตัวเลข (
num
) เป็นอาร์กิวเมนต์ - ตรวจสอบว่า
num
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 หรือไม่- ถ้าใช่ แสดงว่าไม่ใช่จำนวนเฉพาะ (return False)
- วนลูปจาก 2 ไปจนถึง √
num
- ตรวจสอบว่า
num
หารด้วยi
ลงตัวหรือไม่- ถ้าใช่ แสดงว่าไม่ใช่จำนวนเฉพาะ (return False)
- ตรวจสอบว่า
- ถ้าผ่านเงื่อนไขทั้งหมด แสดงว่า
num
เป็นจำนวนเฉพาะ (return True)
- ฟังก์ชันนี้รับตัวเลข (