ข้อสอบภาษาไทย ม.1

วันที่โพสต์

หมวดหมู่

ตัวอย่างข้อสอบภาษาไทย ม.1 จำนวน 60 ข้อ , สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ นักเรียนชั้น ป.6 ที่ต้องการแนวข้อสอบ สอบเข้าม.1

1. การเลือกเขียนเรียงความควรใช้หลักอย่างไร

        ก.  เลือกเรื่องที่เคยเขียนมาก่อน

        ข.  เลือกเรื่องที่มีความรู้มากที่สุด

        ค.  เลือกเรื่องเกี่ยวกับตัวผู้เขียน

        ง.  เลือกเรื่องที่ใช้โวหารได้หลากหลาย

2. ในการเขียนย่อความมีลำดับขั้นตอนอย่างไร

1) จับใจความสำคัญแต่ละย่อหน้า

2) ใจความที่ย่อแล้วให้เขียนติดต่อกันเป็นย่อหน้าเดียว

3) นำใจความสำคัญแต่ละย่อหน้ามาเรียบเรียงใหม่

4) อ่านข้อความนั้นให้เข้าใจแจ่มแจ้งเสียก่อน

        ก.  1) – 3) – 2) – 4)                                                  

        ข.  4) – 3) – 2) – 1)

        ค.  4) – 1) – 3) – 2)                                                  

        ง.  1) – 4) – 2) – 3)

3. ข้อความต่อไปนี้ควรเขียนเรียงลำดับความอย่างไร

1) ถือเป็นการทิ้งโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

2) ใครไม่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในตอนเช้า

3) ธรรมชาติในตอนเช้าเป็นสิ่งที่มนุษย์ได้มาโดยไม่ต้องซื้อหา

4) ฉะนั้นจึงขอขอบคุณธรรมชาติที่มีค่าแก่มนุษย์

        ก.  3) – 2) – 1) – 4)                                                  

        ข.  1) – 2) – 4) – 3)

        ค.  3) – 4) – 2) – 1)                                                  

        ง.  3) – 1) – 4) – 2)

4. การลงวันที่ในจดหมาย ข้อใดถูกต้องที่สุด

        ก.  1 ม.ค. 53                                                              

        ข.  1 ม.ค. 2553

        ค.  1 มกราคม 2553                                                  

        ง.  1 มกราคม พ.ศ. 2553

5. ถ้านักเรียนเขียนจดหมายถึงพระภิกษุ นักเรียนควรเขียนคำขึ้นต้น – ลงท้าย อย่างไร

        ก.  กราบทูล…       ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด            

        ข.  เรียน…       ขอแสดงความนับถือ

        ค.  กราบเรียน…    ขอแสดงความเคารพอย่างสูง      

        ง.  นมัสการ…  ขอนมัสการด้วยความเคารพ

6. ข้อใดเป็นคำมูลทุกคำ

        ก.  ประธาน    สกุณา    พสุธา                                 

        ข.  น้ำ    จรลี        ผลัดเวร

        ค.  อ้อยควั่น   วารี        ลูกเสือ                                

        ง.  ประโยชน์       เสนา      ผัดไทย

7. ข้อใดเป็นคำประสมทุกคำ

        ก.  กระเป๋า   รถประจำทาง แกงส้ม                       

        ข.  ความรัก    เงินเดือน       เครื่องบิน

        ค.  เก้าอี้    ชุดนักเรียน    เปรี้ยวหวาน                    

        ง.  รถไฟ    ปฏิทิน      ดินสอ

8. เนื้อความในข้อใดมิใช่กลุ่มคำ

        ก.  สิกขิมรัฐเล็กที่สุด                                               

        ข.  อาณาจักรแห่งขุนเขา

        ค.  ดินแดนศักดิ์สิทธิ์                                               

        ง.  หิมะปกคลุมตลอดเส้นทาง

9. คำในข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเป็นเสียงควบกล้ำทุกคำ

        ก.  พลัง    เพลิง    ควัน                                            

        ข.  เจริญ     ความ    ขวนขวาย

        ค.  กลาโหม    ขอบ    เพลิน                                    

        ง.  กราบ     ครัว      กว้าง

10. คำในข้อใดมีเสียงพยัญชนะท้ายเหมือนกัน

        ก.  สวย    เลย      จิต                                                 

        ข.  กฎ     ยุทธ     มิตร

        ค.  บิน   อรุณ    แล้ว                                                 

        ง.  ดาว    เร็ว        ถวิล

11.  “ฑ” ในข้อใดออกเสียง “ด” ทั้ง 2 คำ

        ก.  กุณฑล    มณฑา                                                  

        ข.  ขัณฑสกร    ขัณฑสีมา

        ค.  บัณฑิต    บัณเฑาะว์                                           

        ง.  จัณฑาล      บัณฑูร

12.  “ทร” ในข้อใดออกเสียงควบแท้

        ก.  ไทร                                                                       

        ข.  เทริด

        ค.  นิทรา                                                                    

        ง.  มัทรี

13. คำในข้อใดออกเสียง 2 พยางค์

        ก.  สวรรคต                                                               

        ข.  อัฒจันทร์

        ค.  อาชญา                                                                 

        ง.  คุณวุฒิ

14. คำในข้อใดเขียนไม่ถูกต้อง

        ก.  กากบาท    บันเทิง     กะทันหัน                        

        ข.  บาดทะยัก    เบญจเพส   วิ่งเปรี้ยว

        ค.  เสื้อเชิ้ต   ทแยง   กะทัดรัด                                 

        ง.  อาพาธ     แสตมป์      สังเกต

15. คำในข้อใดอ่านไม่ถูก

        ก.  กาลเวลา             อ่านว่า      กาน – เว – ลา            

        ข.  กาลสมัย              อ่านว่า      กา – ละ – สะ – ไหม

        ค.  ฉัตรมงคล           อ่านว่า      ฉัด – ตระ – มง – คล

        ง.  ประวัติศาสตร์    อ่านว่า      ประ – หวัด – สาด

16. คำซ้ำในข้อใดมีความหมายจางลง

        ก.  ดำ                                                                         

        ข.  ดำๆ

        ค.  ด๊ำ ดำ                                                                    

        ง.  ดำ ด๊ำ ดำ

17. คำในข้อใดมิใช่คำซ้อน

        ก.  ยากแค้น    สิ้นสุด                                               

        ข.  เดินตาม       ไปได้

        ค.  ค้นคว้า    วุ่นวาย                                                 

        ง.  สับสน         เลือกสรร

18. เนื้อความในข้อใดเป็นคำนามทุกคำ

        ก.  ถนนลื่น                                                                

        ข.  บันไดเลื่อน

        ค.  ทางม้าลาย                                                           

        ง.  ท่องเที่ยว

19. คำในข้อใดใช้ลักษณะนามไม่ถูกต้อง

        ก.  นาฬิกา – เรือน , มุ้ง – หลัง                               

        ข.  เข็ม – เล่ม , ไม้บรรทัด – อัน

        ค.  ชอล์ก – แท่ง , ปากกา – ด้าม                            

        ง.  พระภิกษุ – คน , กระดาษ – ใบ

20. คำว่า “ได้” ในข้อใดมิได้เป็นคำกริยา

        ก.  กิ้งก่าได้ทอง                                                       

        ข.  วานรได้แก้ว

        ค.  ตาบอดได้แว่น                                                    

        ง.  เขาสู้ได้

21. การพูดในข้อใดเป็นการพูดเชิงสร้างสรรค์

        ก.  นิดคุยกับนุ้ยว่า “เราควรช่วยกันลดโลกร้อน”

        ข.  น้อยบอกหน่อยว่า “เธอสวมชุดนี้แล้วดูแก่”

        ค.  หนึ่งกล่าวว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”

        ง.  น้ำสั่งเด็กนักเรียนว่า “ห้ามเดินลัดสนาม”

22. ข้อใดเป็นการกระทำที่ผู้ฟังที่ดีไม่ควรกระทำในระหว่างที่ฟัง

        ก.  พยายามจับใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง         

        ข.  ฟังอย่างสงบ และมีสมาธิ

        ค.  พูดจาหยอกล้อส่งเสียงดัง                                 

        ง.  จดบันทึกเนื้อความที่สำคัญ

23. ดวงตา มีประโยชน์มหาศาล

คำว่า “ดวงตา” ทำหน้าที่ใดในประโยค

        ก.  ภาคประธาน                                                       

        ข.  ภาคแสดง

        ค.  ส่วนขยาย                                                            

        ง.  กรรม

24. พระเจดีย์ภูเขาทอง มีความสง่างามมาก

เนื้อความนี้มีลักษณะเป็นประโยคชนิดใด

        ก.  ประโยคความเดียว                                            

        ข.  ประโยคความรวม

        ค.  ประโยคความซ้อน                                            

        ง.  นามานุประโยค

25. “ฉันชอบดูละครทีวีน้ำดี” ประโยคนี้สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาเขียนได้ว่าอย่างไร

        ก.  ฉันชอบดูละครโทรทัศน์น้ำดี                           

        ข.  ฉันชอบดูละครทีวีสร้างสรรค์

        ค.  ฉันชอบชมละครทีวีสร้างสรรค์สังคม             

        ง.  ฉันชอบดูละครโทรทัศน์สร้างสรรค์สังคม

26. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการสื่อสารโต้ตอบกันระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสาร

        ก.  ใช้วาจาไพเราะ                                                   

        ข.  ใช้คำหยาบคายเพื่อความสนิทสนม

        ค.  ตั้งใจฟังผู้ที่กำลังพูด                                          

        ง.  ไม่พูดแทรกเมื่อผู้อื่นกำลังพูด

27. ก้านบัวบอกลึกตื้น      ชลธาร

        มรรยาทส่อสันดาน                          ชาติเชื้อ

        โฉดฉลาดเพราะคำขาน                   ควรทราบ

        หย่อมญ่าเหี่ยวแห้งเรื้อ                     บอกร้ายแสลงดิน

จากบทประพันธ์ข้างต้นเนื้อความในข้อใดกล่าวเกี่ยวกับการพูด

        ก.  ก้านบัวบอกลึกตื้น            ชลธาร                    

        ข.  มรรยาทส่อสันดาน        ชาติเชื้อ

        ค.  โฉดฉลาดเพราะคำขาน     ควรทราบ              

        ง.  หย่อมญ่าเหี่ยวแห้งเรื้อ    บอกร้ายแสลงดิน

28. ข้อใดเป็นลักษณะของการเขียนรายงาน

        ก.  การเขียนเรื่องราวที่ศึกษาค้นคว้า                     

        ข.  การเขียนประวัติส่วนตัว

        ค.  บันทึกการท่องเที่ยว                                          

        ง.  การเขียนเล่าประสบการณ์

29. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการทำโครงงาน

        ก.  ผู้เรียนมีโอกาสได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง    

        ข.  ลงมือปฏิบัติเองตามความสามารถ

        ค.  การศึกษาค้นคว้าจะทำโดยมีครูผู้สอนคอยแนะนำ            

        ง.  เป็นการศึกษาที่ไม่อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

30. วันนั้นจันทร          มีดารากร          เป็นบริวาร

เห็นดินสิ้นฟ้า      ในป่าท่าธาร           มาลีคลี่บาน       ใบก้านอรชร”

ข้อใดเป็นคำพ้องความหมาย (คำไวพจน์) ขอคำที่ขีดเส้นใต้

        ก.  พนา   ไพรสณฑ์                                                 

        ข.  ชโลธร   ชลาลัย

        ค.  รวี   ทินกร                                                           

        ง.  พสุธา   ปฐพี

31. แม้เมื่อเรายังเล็กเป็นเด็กน้อย                       เคยกล่าวถ้อยวอนจันทราว่าให้สม

     ขอข้าวแกง…แหวน…ให้น้องปองนิยม            ขอเตียงตั่งนั่งชมดาวและเดือน

บทประพันธ์นี้มีลักษณะเป็นคำประพันธ์ชนิดใด

        ก.  กลอนสุภาพ                                                        

        ข.  โคลงสี่สุภาพ

        ค.  กาพย์ยานี ๑๑                                                      

        ง.  กาพย์ฉบัง ๑๖

32. จากบทประพันธ์ในข้อ 1 คำในข้อใดมีสัมผัสถูกต้อง

        ก.  เล็ก – เป็น – เด็ก , ถ้อย – วอน                          

        ข.  น้อย – ถ้อย , สม – ยม

        ค.  แกง – แหวน , ดาว – เดือน                               

        ง.  น้อย – ถ้อย , นิยม – ชม

33. เนื้อความในข้อใดมีสัมผัสพยัญชนะมากที่สุด

        ก.  ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส           เมื่อตรุษสารทพระพรรษาได้อาศัย

        ข.  ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย           แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา

        ค.  นี่หรือจิตคิดหมายมีหลายใจ       ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิด

        ง.  ดูน้ำวิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก       กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน

34. เนื้อความในข้อใดมีสัมผัสสระมากที่สุด

        ก.  กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ       จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น

        ข.  เงียบสงัดสัตว์ป่าคณานก            น้ำค้างตกพร่างพรายพระพายพัด

        ค.  ทั้งโลโภโทโสและโมหะ            ให้ชนะใจได้อย่าใหลหลง

        ง.  ได้ฟังเล่นต่างต่างที่ข้างวัด           ดึกสงัดเงียบหลับลงกับหมอน

35. เนื้อความในข้อใดให้คุณค่าความไพเราะมากที่สุด

        ก.  รับกฐินภิญโญโมทนา                 ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย

        ข.  อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา               อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง

        ค.  ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก   สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน

        ง.  โอ้ยามเข็ญเห็นอยู่แต่หนูพัด       ช่วยนั่งปัดยุงให้ไม่ไกลกาย

        อ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 36 – ข้อ 40

        คุณแม่หนาหนักเพี้ยง                                พสุธา

        คุณบิดรดุจอา –                                         กาศกว้าง

        คุณพี่พ่างศิขรา                                         เมรุมาศ

        คุณพระอาจารย์จ้าง                                  อาจสู้ดัสกร

36. บทร้อยกรองนี้มีลักษณะเป็นคำประพันธ์ประเภทใด

        ก.  กลอนสุภาพ                                                        

        ข.  โคลงสี่สุภาพ

        ค.  กาพย์ยานี 11                                                       

        ง.  กาพย์ฉบัง 16

37. โคลงบทนี้กำหนดให้มีคำที่ใช้วรรณยุกต์ และโทจำนวนเท่าไร

        ก.  เอก 7    โท 4                                                       

        ข.  เอก 5    โท 2 

        ค.  เอก 4    โท 4                                                       

        ง.  เอก 3    โท  4 

38. คำในข้อใดมีสัมผัสถูกต้องตามลักษณะคำประพันธ์

        ก.  หนา – หนัก , กาศ – กว้าง                                 

        ข.  มาศ – อ้าง – ดัส , สู้ – ดัสกร

        ค.  กว้าง – มาศ , ธา – อา – รา                                

        ง.  พสุธา – อา – ศิขรา , กว้าง – อ้าง

39. โคลงสี่สุภาพ กำหนดให้ 1 บท มีคำทั้งหมดจำนวนเท่าไร

        ก.  34  คำ                                                                   

        ข.  32  คำ

        ค.  30  คำ                                                                   

        ง.  28  คำ

40. บทประพันธ์นี้กล่าวถึงสาระสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใดเป็นสำคัญ

        ก.  ความรัก                                                               

        ข.  ความกตัญญู

        ค.  ความซื่อสัตย์                                                      

        ง.  ความสุข

41. “ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า                           ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา

เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา                        ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย”

บทประพันธ์ตอนนี้ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องใด

        ก.  แหล่งกำเนิด                                                        

        ข.  อาชีพ

        ค.  ประเพณี                                                              

        ง.  สถานที่

42. เนื้อความในข้อใดคือ เนื้อหาสาระสำคัญของเรื่องโคลงโลกนิติ

        ก.  ประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา

        ข.  หลักปฏิบัติตนให้เป็นคนดี สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ในสังคมด้วยความไม่ประมาท

        ค.  ประวัติศาสตร์ของชาติไทย

        ง.  รายชื่ออาหารไทย

43. ถึงจนทนสู้กัด                       กินเกลือ

อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ                  พวกพ้อง

อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ              สงวนศักดิ์

โซก็เสาะใส่ท้อง                       จับเนื้อกินเอง

โคลงบทนี้ให้ข้อคิด และคติธรรมเกี่ยวกับเรื่องใด

        ก.  ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน                            

        ข.  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

        ค.  รักสัตย์ยิ่งชีวิต                                                     

        ง.  เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

44. เนื้อความต่อไปนี้ ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง

      ก.  ความรู้คู่เปรียบนั้น        นักเรียน

      ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร              ผ่ายหน้า

      ข.  ถึงจนทนสู้กัด                กินเกลือ

      อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ            พวกพ้อง

      ค.  เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม      ใจตาม

      เรายากหากใจงาม               อย่าคร้าน

      ง.  คนใดละพ่อทั้ง               มารดา

      อันทุพพลชรา                      ภาพแล้ว

45. ปลากระโห้โลมาราหู      เหราปลาทู

      มีอยู่ในน้ำคล่ำไป

บทประพันธ์นี้กล่าวถึงปลากี่ชนิด

        ก.  5  ชนิด                                                                 

        ข.  4  ชนิด

        ค.  3  ชนิด                                                                 

        ง.  2  ชนิด

46. คำในข้อใดมีความหมายต่างจากข้ออื่น

        ก.  วารี                                                                       

        ข.  เภตรา

        ค.  ธารา                                                                     

        ง.  สินธุ

47. อ่อนหวานมานมิตรล้น                   เหลือหลาย

หยาบบ่มีเกลอกราย                            เกลื่อนใกล้

ดุจดวงศศิฉาย                                    ดาวดาษประดับนา

สุริยะส่องดาราไว้                               เพื่อร้อนแรงแสง

โคลงบทนี้มีคุณค่าทางวรรณคดีอย่างยิ่งสำหรับนำไปใช้พัฒนาทักษะทางภาษาด้านใด

        ก.  การพูด                                                                 

        ข.  การฟัง

        ค.  การอ่าน                                                               

        ง.  การเขียน

48. วรรณคดีเรื่องราชาธิราช เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงชนชาติใดเป็นสำคัญ

        ก.  ไทย                                                                       

        ข.  มอญ

        ค.  พม่า                                                                      

        ง.  จีน

49. พงศาวดาร หมายถึงข้อใด

        ก.  เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า                           

        ข.  เรื่องราวทางประวัติศาสตร์

        ค.  เรื่องราวการทดลองทางวิทยาศาสตร์              

        ง.  เรื่องราวเกี่ยวกับประเพณีโบราณ

50. ตัวละครคนใดสมควรได้รับยกย่องว่า เป็นผู้มีอัธยาศัยน่าชื่นชม มีใจเป็นธรรม รักษาคำสัตย์ และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา

        ก.  พระเจ้าฟ้ารั่ว                                                       

        ข.  พระเจ้าราชาธิราช

        ค.  พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง                                            

        ง.  พระเจ้ากรุงจีน

51. ตัวละครคนใดสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นตัวอย่างของผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

        ก.  พระเจ้าราชาธิราช                                              

        ข.  พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง

        ค.  พระเจ้ากรุงจีน                                                    

        ง.  สมิงพระราม

52. “ขี่ช้างขี่ม้าสันทัดดี ฝีมือเข้มแข็ง แกล้วกล้าในการสงคราม หาผู้เสมอตัวยาก”

เนื้อความนี้หมายถึงตัวละครในข้อใด

        ก.  สมิงนครอินทร์                                                   

        ข.  สมิงพ่อเพชร

        ค.  สมิงพระราม                                                       

        ง.  กามะนี

53. “ม้าดีได้ต้องเอามือต้องหลังดูก่อน  จึงจะรู้ว่าดี…”

คำว่า ต้อง หมายถึงข้อใด

        ก.  แตะ                                                                      

        ข.  จับ

        ค.  ตี                                                                           

        ง.  ตบ

54. เนื้อความต่อไปนี้ มีลักษณะเป็นโวหารชนิดใด

“…ลักษณะช้างดีต่อเมื่อขี่จึงรู้ว่าดี ม้าดีได้ต้องเอามือต้องหลังดูก่อนจึงจะรู้ว่าดี ทแกล้วทหารก็ดี ถ้าอาสาออกสงครามทำศึก จึงจะรู้ว่าดี ทองนพคุณเล่าขีดลงหน้าศิลาก่อนจึงจะรู้ว่าดี…”

        ก.  โวหารบรรยาย                                                    

        ข.  โวหารพรรณนา

        ค.  โวหารสาธก                                                        

        ง.  โวหารอุปมา

55. “…เราเป็นกษัตริย์ผู้ใหญ่อันประเสริฐได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แก่เขาแล้ว จะกลับคำไปดังนั้นหาควรไม่ พม่าทั้งปวงจะชวนกันดูหมิ่นได้ว่าจีนพูดมิจริง เรารักสัตย์ยิ่งกว่าทรัพย์ อย่าว่าแต่สมบัติมนุษย์นี้เลย ถึงท่านจะเอาทิพยสมบัติของสมเด็จอมรินทร์มายกให้เรา เราก็มิได้ปรารถนา ตรัสดังนั้นแล้วก็สั่งให้เลิกทัพเสด็จกลับไปยังกรุงจีน”

เนื้อความนี้ให้คุณค่าแห่งรสวรรณคดีด้านใด

        ก.  เสาวรจนี                                                              

        ข.  นารีปราโมทย์

        ค.  พิโรธวาทัง                                                          

        ง.  สัลลาบังคพิไสย

56. เนื้อความในข้อใดมิได้แสดงให้เห็นส่วนประกอบของเครื่องปรุงอาหาร

        ก.  มัสมั่นแกงแก้วตา               หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

        ข.  ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม      เจือน้ำส้มโรยพริกไทย

        ค.  หมูแหนมแหลมเลิศรส     พร้อมพริกสดใบทองหลาง

        ง.  เทโพพื้นเนื้อทอง                เป็นมันย่องล่องลอยมัน

57. ความรักยักเปลี่ยนท่า                ทำน้ำยาอย่างแกงขม

กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม         ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น

บทประพันธ์นี้มีลักษณะเด่นในด้านใดเป็นสำคัญ

        ก.  การเปรียบเทียบเห็นภาพพจน์

        ข.  การพรรณนาซาบซึ้งกินใจ

        ค.  มีการเคลื่อนไหว

        ง.  มีการเล่นอักษร และเล่นเสียงวรรณยุกต์

58. ช้าช้า พล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม

คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

คำที่ขีดเส้นใต้ หมายถึงข้อใด

        ก.  ชื่ออาหาร                                                            

        ข.  ชื่อเพลง

        ค.  ไม่เร็ว                                                                   

        ง.  คำอุทาน

59. เนื้อความในข้อใดมีการพรรณนาที่ถ่ายทอดอารมณ์ของกวีได้ดีที่สุด

      ก.  มัสมั่นแกงแก้วตา                   หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

             ชายใดได้กลืนแกง                  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

      ข.  ล่าเตียงคิดเคียงน้อง                นอนเตียงทองทำเมืองบน

             ลดหลั่นชั้นชอบกล                ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

      ค.  ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น                วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย

             รสทิพย์หยิบมาโปรย             ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ

      ง.  ความรักยักเปลี่ยนท่า             ทำน้ำยาอย่างแกงขม

             กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม       ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น

60. ข้อใดคือลักษณะของนิทานพื้นบ้าน

        ก.  เรื่องราวที่บันทึกไว้เป็นอักษร                          

        ข.  เรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมา

        ค.  ตัวละครมีน้อยคน                                              

        ง.  เนื้อเรื่องสั้น

เฉลยข้อสอบ

ข้อคำตอบข้อคำตอบข้อคำตอบข้อคำตอบข้อคำตอบข้อคำตอบ
1.ข.11.ค.21.ก.31.ก.41.ค.51.ง.
2.ค.12.ค.22.ค.32.ข.42.ข.52.ค.
3.ก.13.ค.23.ก.33.ง.43.ข.53.ก.
4.ค.14.ข.24.ก.34.ค.44.ง.54.ก.
5.ง.15.ง.25.ง.35.ค.45.ข.55.ง.
6.ก.16.ข.26.ข.36.ข.46.ข.56.ง.
7.ข.17.ข.27.ค.37.ก.47.ก.57.ง.
8.ง.18.ค.28.ก.38.ง.48.ข.58.ง.
9.ง.19.ง.29.ง.39.ค.49.ข.59.ค.
10.ข.20.ง.30.ก.40.ข.50.ง.60.ข.