ข้อสอบ วิชา วิทยาศาสตร์ ชั้น ม.3 จำนวน 40 ข้อ พร้อมเฉลย และตัวชี้วัดรายข้อ
1. ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิด เช่น หญ้า ต้นไม้ กวาง กระต่าย แมลง มด เสือ และงู โดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตยังมีความสัมพันธ์กับแหล่งที่อยู่อาศัยด้วยเรียกความสัมพันธ์ดังกล่าวว่าอย่างไร (มฐ. ว 1.1 ม.3/1)
1. โซ่อาหาร 2. ระบบนิเวศ
3. กลุ่มสิ่งมีชีวิต 4. สายใยอาหาร
2. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยทางกายภาพในระบบนิเวศ (มฐ. ว 1.1 ม.3/1)
1. น้ำ 2. ดิน
3. ป่าไม้ 4. อุณหภูมิ
3. ข้อใดคือความหมายของประชากร (มฐ. ว 1.1 ม.3/1)
1. สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกในช่วงเวลาหนึ่ง
2. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกันในช่วงเวลาหนึ่ง
3. สิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดที่อยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกันในช่วงเวลาหนึ่ง
4. สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่กระจายอยู่ตามแหล่งต่างๆ ทั่วโลกในช่วงเวลาหนึ่ง
4. เหตุใดตั๊กแตนบางชนิดจึงมีรูปร่างเหมือนใบไม้ (มฐ. ว 1.1 ม.3/1)
1. ตั๊กแตนมีการปรับตัวทางด้านสรีระ
2. ตั๊กแตนมีการปรับตัวทางด้านรูปร่าง
3. ตั๊กแตนสามารถเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นใบไม้ได้
4. ตั๊กแตนมีการปรับตัวทางด้านพฤติกรรมและการแสดงออก
5. ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิ (มฐ. ว 1.1 ม.3/6)
1. การจำศีลของกบ
2. การอพยพย้ายถิ่นของนก
3. หมีขั้วโลกมีขนยาวปกคลุม
4. การหันตามดวงอาทิตย์ของดอกทานตะวัน
6. ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตรูปแบบใดที่มีผลต่อการควบคุมสมดุลของจำนวนประชากร (มฐ. ว 1.1
ม.3/10)
1. ภาวะปรสิต 2. ภาวะล่าเหยื่อ
3. ภาวะพึ่งพากัน 4. ภาวะการได้รับประโยชน์ร่วมกัน
7. ข้อใดคือการอยู่ร่วมกันที่มีความสัมพันธ์แบบ -, – (มฐ. ว 1.1 ม.3/2)
ก. ภาวะอิงอาศัย ข. ภาวะพึ่งพากัน
ค. ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน
1. ข้อ ก เท่านั้น 2. ข้อ ข เท่านั้น
3. ข้อ ข และ ค 4. ข้อ ก ข และ ค
8. ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตคู่ใดที่เหมือนกัน (มฐ. ว 1.1 ม.3/2)
ก. เห็บบนตัวสุนัข ข. กาฝากบนต้นไม้ใหญ่
ค. กล้วยไม้บนต้นไม้ใหญ่ ง. แบคทีเรียในรากพืชตระกูลถั่ว
1. ข้อ ก และ ข 2. ข้อ ข และ ค
3. ข้อ ก และ ง 4. ข้อ ข และ ง
9. ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตใดที่แตกต่างจากข้ออื่น (มฐ. ว 1.1 ม.3/2)
1. พยาธิในลำไส้หนู 2. โพรโทซัวในลำไส้ปลวก
3. ราที่อาศัยอยู่ร่วมกับสาหร่าย 4. แบคทีเรียไรโซเบียมในรากพืชตระกูลถั่ว
10. ปัจจัยใดที่สำคัญที่สุดที่ทำให้สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศมีความสัมพันธ์กัน (มฐ. ว 1.1 ม.3/4)
1. อาหาร 2. พลังงาน
3. ที่อยู่อาศัย 4. การหมุนเวียนของสาร
11. สิ่งมีชีวิตในข้อใดที่จัดเป็นผู้บริโภคประเภทเดียวกัน (มฐ. ว 1.1 ม.3/4)
1. ไก่ วัว จิ้งจก 2. เสือ แรด สิงโต
3. กบ คางคก ยีราฟ 4. ม้า แกะ กระต่าย
12. นกพิราบกินข้าวสารเป็นอาหารและยังสามารถกินหนอนเป็นอาหารได้ด้วยควรจัดอยู่ในผู้บริโภคกลุ่มใด (มฐ. ว 1.1 ม.3/4)
1. ผู้บริโภคพืช 2. ผู้บริโภคสัตว์
3. ผู้บริโภคทั้งพืชและสัตว์ 4. ผู้บริโภคซากพืชซากสัตว์
13. สิ่งมีชีวิตที่สามารถเปลี่ยนสารอนินทรีย์ให้เป็นสารอินทรีย์คือข้อใด (มฐ. ว 1.1 ม.3/4)
1. ผู้ผลิต 2. ผู้บริโภค
3. ผู้ย่อยสลาย 4. ถูกต้องทั้งข้อ 1 และ 3
14. สิ่งมีชีวิตใดที่ได้รับพลังงานน้อยที่สุดในพีระมิดพลังงาน (มฐ. ว 1.1 ม.3/3)
1. ผู้ผลิต 2. ผู้บริโภคลำดับ 1
3. ผู้บริโภคลำดับสุดท้าย 4. ผู้ย่อยสลายอินทรียสาร
15. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโซ่อาหาร (มฐ. ว 1.1 ม.3/3)
1. การเขียนโซ่อาหารนั้นต้องหันหัวลูกศรเข้าหาผู้ที่กิน
2. แสดงความสัมพันธ์ด้านการบริโภคของสิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่ต่างๆ
3. แสดงความสัมพันธ์ด้านการถ่ายทอดพลังงานของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลก
4. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
16. ถ้ากระต่ายกินหญ้าที่มีพลังงานรวม 200 กิโลแคลอรี สุดท้ายเหยี่ยวจะได้รับพลังงานที่ส่งต่อมาถึงเท่าไร (มฐ. ว 1.1 ม.3/3)
1. 0.2 แคลอรี 2. 200 แคลอรี
3. 2 กิโลแคลอรี 4. 20 กิโลแคลอรี
17. วัฏจักรของสารใดไม่จำเป็นต้องหมุนเวียนผ่านสิ่งมีชีวิต (มฐ. ว 1.1 ม.3/6)
1. วัฏจักรน้ำ 2. วัฏจักรคาร์บอน
3. วัฏจักรไนโตรเจน 4. วัฏจักรฟอสฟอรัส
18. วัฏจักรคาร์บอนในธรรมชาติแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการใด (มฐ. ว 1.1 ม.3/6)
1. กระบวนการหายใจ 2. กระบวนการคายน้ำ
3. กระบวนการย่อยสลาย 4. กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
19. การสังเคราะห์ด้วยแสง การหายใจ และการขับถ่ายเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดวัฏจักรใด (มฐ. ว 1.1
ม.3/6)
1. วัฏจักรน้ำ 2. วัฏจักรคาร์บอน
3. วัฏจักรไนโตรเจน 4. วัฏจักรฟอสฟอรัส
20. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของแบคทีเรียต่อการหมุนเวียนไนโตรเจน (มฐ. ว 1.1 ม.3/6)
1. ให้พลังงานที่จำเป็นต่อการหมุนเวียนไนโตรเจน
2. เปลี่ยนไนโตรเจนในอากาศให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
3. เปลี่ยนสารประกอบไนโตรเจนให้กลับไปเป็นไนโตรเจนอิสระในบรรยากาศ
4. ทำให้มีการหมุนเวียนของไนโตรเจนจากภายนอกเข้าสู่สิ่งมีชีวิตและกลับคืนสู่ธรรมชาติ
21. ข้อใดจัดเรียงองค์ประกอบในนิวเคลียสจากใหญ่ไปเล็กได้ถูกต้อง (มฐ. ว 1.3 ม.3/1)
1. โครโมโซม → ยีน → ดีเอ็นเอ 2. โครโมโซม → ดีเอ็นเอ → ยีน
3. ดีเอ็นเอ → โครโมโซม → ยีน 4. ดีเอ็นเอ → ยีน → โครโมโซม
22. การแบ่งเซลล์แบบใดที่ทำให้จำนวนโครโมโซมในเซลล์ลดลงครึ่งหนึ่งจากเซลล์เดิม (มฐ. ว 1.3 ม.3/4)
1. ไมโทซิส 2. ไมโอซิส I
3. ไมโอซิส II 4. ถูกต้องทุกข้อ
23. ในการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสระยะใดที่โครมาทิดถูกดึงไปยังขั้วของเซลล์ (มฐ. ว 1.3 ม.3/4)
1. โพรเฟส 2. เมทาเฟส
3. แอนาเฟส 4. เทโลเฟส
24. ข้อใดไม่ถูกต้อง (มฐ. ว 1.3 ม.3/4)
1. การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจะมีขั้นตอนการแบ่งเซลล์ 2 ขั้นตอน
2. การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสเป็นการแบ่งเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ร่างกาย
3. การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสเมื่อแบ่งเสร็จแล้วจะมีจำนวนโครโมโซมเท่าเดิม
4. การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสเมื่อแบ่งในแต่ละครั้งเสร็จแล้วจะได้เซลล์สืบพันธุ์ 2 เซลล์
25. ข้อใดไม่ถูกต้อง (มฐ. ว 1.3 ม.3/2)
1. ลักษณะเด่นสามารถปรากฏได้เมื่อมีแอลลีลเด่นเพียงแอลลีลเดียว
2. ลักษณะเด่นสามารถปรากฏได้เมื่อแอลลีลเด่นเข้าคู่กัน 2 แอลลีล
3. ลักษณะด้อยสามารถปรากฏได้เมื่อมีแอลลีลด้อยเพียงแอลลีลเดียว
4. ลักษณะด้อยสามารถปรากฏได้เมื่อแอลลีลด้อยเข้าคู่กัน 2 แอลลีล
26. ลักษณะความผิดปกติทางพันธุกรรมข้อใดที่เกิดจากความผิดปกติของยีนเด่นบนออโตโซม (มฐ. ว 1.3
ม.3/5)
1. ตาบอดสี 2. ฮีโมฟิเลีย
3. ทาลัสซีเมีย 4. ท้าวแสนปม
27. ลักษณะผิดปกติทางพันธุกรรมข้อใดที่เกิดจากความผิดปกติของยีนด้อยบนออโตโซม (มฐ. ว 1.3 ม.3/5)
1. คนแคระ 2. ผิวเผือก
3. G-6-PD 4. กล้ามเนื้อแขนขาลีบ
28. ลักษณะผิดปกติทางพันธุกรรมข้อใดที่มีโอกาสเกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง (มฐ. ว 1.3 ม.3/5)
1. ตาบอดสี 2. ทาลัสซีเมีย
3. ท้าวแสนปม 4. เซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นรูปเคียว
29. สามีภรรยาคู่หนึ่งไปตรวจภาวะของการเป็นโรคทาลัสซีเมีย ปรากฏว่ามีภาวะเป็นพาหะของโรคทั้งคู่
อยากทราบว่าอัตราส่วนที่สามีภรรยาคู่นี้จะมีลูกที่เป็นปกติและเป็นโรคทาลัสซีเมียเป็นเท่าไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. 1 : 1 2. 1 : 3
3. 3 : 1 4. 4 : 0
30. ครอบครัวหนึ่งมีลูกที่มีหมู่เลือด O พ่อและแม่ของครอบครัวนี้ควรมีลักษณะหมู่เลือดตามข้อใด (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. IAIB × IAIB 2. IAIA × IAi
3. IAIB × IBi 4. IAi × IBi
31. จากข้อ 30 พ่อและแม่คู่นี้มีโอกาสมีลูกที่มีหมู่เลือด A ร้อยละเท่าไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. 25 2. 50
3. 75 4. 100
พิจารณาข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 32-33
ฮีโมฟิเลียเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากแอลลีลด้อย ถ้าที่เป็นปกติแต่งงานกับหญิงที่เป็นพาหะของโรคฮีโมฟิเลีย
กำหนดให้ ⚫ = แอลลีลเด่น 🞅 = แอลลีลด้อย
32. ข้อใดคือลักษณะการเข้าคู่ของแอลลีลของลูกที่เกิด (มฐ. ว 1.3 ม.3/2)
1. X⚫X🞅 X⚫X🞅 X⚫Y X⚫Y
2. X⚫X🞅 X🞅X🞅 X🞅Y X🞅Y
3. X⚫X⚫ X⚫X🞅 X⚫Y X⚫Y
4. X⚫X⚫ X⚫X🞅 X🞅Y X⚫Y
33. โรคทางพันธุกรรมใดที่ผู้ป่วยจะมีจำนวนโครโมโซมเท่ากับคนปกติ (มฐ. ว 1.3 ม.3/5)
1. กลุ่มอาการดาวน์ 2. กลุ่มอาการพาทัว
3. กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด 4. กลุ่มอาการคริดูชาต์
พิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 34-40
“เมนเดลเลือกถั่วลันเตาต้นสูงผสมกับถั่วลันเตาต้นเตี้ย โดยเรียกรุ่นนี้ว่ารุ่นพ่อแม่หรือรุ่น P เมื่อผสมกันจะได้รุ่นลูกออกมา เรียกว่า รุ่น F1 หลังจากนั้นเมนเดลนำลูกรุ่น F1 มาผสมพันธุ์ภายในดอกเดียวกัน (self cross) ออกมาเป็นรุ่นหลานหรือรุ่น F2”
34. ลักษณะความสูงของลำต้นถั่วลันเตาในรุ่น F1 มีลักษณะอย่างไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/2)
1. ลำต้นสูงทั้งหมด 2. ลำต้นเตี้ยทั้งหมด
3. ลำต้นสูงร้อยละ 50 4. ลำต้นสูงร้อยละ 75
35. อัตราส่วนของจีโนไทป์ในรุ่น F2 เป็นอย่างไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. 4 : 0 2. 3 : 1
3. 2 : 2 4. 1 : 2 : 1
36. อัตราส่วนของฟีโนไทป์ในรุ่น F2 เป็นอย่างไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. 4 : 0 2. 3 : 1
3. 2 : 2 4. 1 : 2 : 1
37. การทดลองของเมนเดลในรุ่น F2 ต้นพ่อและแม่มีลักษณะลำต้นเป็นอย่างไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/2)
1. สูงพันธุ์แท้ทั้งคู่ 2. สูงพันทางทั้งคู่
3. สูงพันธุ์แท้กับสูงพันทาง 4. สูงพันธุ์แท้กับเตี้ย
38. ถ้าผสมถั่วลันเตาฝักอวบสีเขียวพันธุ์แท้กับฝักแฟบสีเหลืองพันธุ์แท้จะได้รุ่นลูกที่มีลักษณะอย่างไร (เมื่อฝักอวบและฝักสีเขียวเป็นลักษณะเด่น) (มฐ. ว 1.3 ม.3/2)
1. ฝักอวบสีเขียว 2. ฝักอวบสีเหลือง
3. ผักแฟบสีเขียว 4. ฝักแฟบสีเหลือง
39. จากข้อ 38 ถ้านำรุ่นลูกมาผสมกันเองจะได้อัตราส่วนฟีโนไทป์เป็นอย่างไร (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. ฝักอวบสีเหลือง : ฝักอวบสีเขียว : ฝักแฟบสีเหลือง : ฝักแฟบสีเขียว = 9 : 3 : 3 : 1
2. ฝักอวบสีเหลือง : ฝักอวบสีเขียว : ฝักแฟบสีเหลือง : ฝักแฟบสีเขียว = 1 : 3 : 3 : 9
3. ฝักอวบสีเหลือง : ฝักอวบสีเขียว : ฝักแฟบสีเหลือง : ฝักแฟบสีเขียว = 3 : 9 : 3 : 1
4. ฝักอวบสีเหลือง : ฝักอวบสีเขียว : ฝักแฟบสีเหลือง : ฝักแฟบสีเขียว = 3 : 9 : 1 : 3
40. จากข้อ 39 รุ่นลูกฝักอวบสีเหลืองและฝักแฟบสีเขียวควรมีจีโนไทป์แบบใด ตามลำดับ (ถ้าให้ฝักอวบแทนด้วย F ฝักแฟบแทนด้วย f ฝักสีเขียวแทนด้วย G และฝักสีเหลืองแทนด้วย g) (มฐ. ว 1.3 ม.3/3)
1. FFGG, ffgg 2. FFgg, ffGG
3. ffGG, FFgg 4. Ffgg, FFGG
เฉลยข้อสอบ
ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ |
1 | 2 | 2 | 3 | 3 | 2 | 4 | 2 | 5 | 4 |
6 | 2 | 7 | 3 | 8 | 1 | 9 | 1 | 10 | 2 |
11 | 4 | 12 | 3 | 13 | 1 | 14 | 3 | 15 | 3 |
16 | 3 | 17 | 1 | 18 | 4 | 19 | 2 | 20 | 1 |
21 | 2 | 22 | 2 | 23 | 3 | 24 | 4 | 25 | 3 |
26 | 4 | 27 | 2 | 28 | 1 | 29 | 3 | 30 | 4 |
31 | 1 | 32 | 4 | 33 | 4 | 34 | 1 | 35 | 4 |
36 | 2 | 37 | 2 | 38 | 1 | 39 | 4 | 40 | 2 |