สรุปเนื้อหาเรื่องการสร้างฟังก์ชันในภาษา Python
ฟังก์ชัน (Function) ในภาษา Python คือส่วนของโค้ดหรือโปรแกรมที่ทำงานเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ช่วยให้เราสามารถเขียนโค้ดซ้ำๆ ได้โดยไม่ต้องเขียนใหม่หลายครั้ง ช่วยให้โค้ดมีโครงสร้างชัดเจน อ่านง่าย และจัดการง่ายขึ้น
การสร้างฟังก์ชัน
ใช้คำสั่ง def
ตามด้วยชื่อฟังก์ชัน วงเล็บ ()
อาร์กิวเมนต์ (ถ้ามี) และสองจุด :
def ชื่อฟังก์ชัน(arg1, arg2, ...):
# บล็อกโค้ดของฟังก์ชัน
ตัวอย่าง:
def สวัสดี(ชื่อ):
print("สวัสดี", ชื่อ, "!")
สวัสดี("บาร์ด") # ผลลัพธ์: สวัสดี บาร์ด!
อาร์กิวเมนต์:
- เป็นตัวแปรที่ส่งค่าเข้ามาในฟังก์ชัน
- ประกาศในวงเล็บ
()
หลังชื่อฟังก์ชัน - แยกอาร์กิวเมนต์ด้วยเครื่องหมายจุลภาค (,)
- สามารถมีอาร์กิวเมนต์หลายตัว
- ตัวอย่าง:
def ฟังก์ชัน(arg1, arg2)
ค่าส่งกลับ:
- ฟังก์ชันสามารถส่งค่ากลับได้
- ใช้คำสั่ง
return
ตามด้วยค่าที่ต้องการส่งกลับ - ตัวอย่าง:
def ฟังก์ชัน(): return 10
การเรียกใช้ฟังก์ชัน:
- เขียนชื่อฟังก์ชันตามด้วยวงเล็บ
()
- ใส่ค่าอาร์กิวเมนต์ (ถ้ามี) ในวงเล็บ
()
- แยกค่าอาร์กิวเมนต์ด้วยเครื่องหมายจุลภาค (,)
- ตัวอย่าง:
ฟังก์ชัน(arg1, arg2)
ประเภทของฟังก์ชัน
- ฟังก์ชันไม่มีค่าส่งกลับ: ทำงานเพื่อทำงานบางอย่าง แต่ไม่มีค่าส่งกลับ
- ฟังก์ชันมีค่าส่งกลับ: ทำงานเพื่อทำงานบางอย่าง และส่งค่ากลับ
ประโยชน์ของฟังก์ชัน
- การนำโค้ดกลับมาใช้ใหม่: เขียนฟังก์ชันหนึ่งครั้ง เรียกใช้หลายครั้ง
- โครงสร้างโค้ด: ทำให้โค้ดมีโครงสร้างชัดเจน อ่านง่าย
- การจัดการโค้ด: ง่ายต่อการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ตรวจสอบ
- การแบ่งโมดูล: แบ่งโค้ดเป็นโมดูลแยกต่างหาก
ตัวอย่างเพิ่มเติม
- ฟังก์ชันหาค่ากำลังสอง:
def กำลังสอง(x):
return x * x
ผลลัพธ์ = กำลังสอง(5)
print(ผลลัพธ์) # ผลลัพธ์: 25
- ฟังก์ชันตรวจสอบว่าจำนวนเป็นจำนวนคู่หรือคี่:
def ตรวจสอบคู่คี่(x):
if x % 2 == 0:
return "คู่"
else:
return "คี่"
จำนวน = int(input("ใส่จำนวน: "))
ผลลัพธ์ = ตรวจสอบคู่คี่(จำนวน)
print(ผลลัพธ์)