สรุปเนื้อหา เรื่องย่อ นิราศเมืองแกลง วิชาภาษาไทย ม.2
ผู้แต่ง: พระสุนทรโวหาร (ภู่)
ประเภท: กลอนนิราศ
คำประพันธ์: กลอนสุภาพ
ปีที่แต่ง: พ.ศ. 2349
ยุค: รัชกาลที่ 1
เนื้อหาโดยย่อ
นิราศเมืองแกลง เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอนนิราศ เรื่องแรกของสุนทรภู่ แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2349 เนื้อหาโดยคร่าวๆ กล่าวถึงการเดินทางโดยเรือของสุนทรภู่เพื่อไปยังเมืองแกลง จังหวัดระยอง โดยมีศิษย์ 2 คน คือ น้อยกับพุ่ม และมีผู้นำทางชื่อนายแสง ร่วมเดินทางไปด้วย
วัตถุประสงค์การเดินทาง
วัตถุประสงค์การเดินทางของสุนทรภู่ยังไม่เป็นที่แน่ชัด บ้างก็ว่าเขาต้องการไปบวชกับบิดา บ้างก็ว่าเขาเดินทางไปขอเงินเพื่อกลับมาแต่งงาน นักวิชาการยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าสุนทรภู่กลับไปทำไม แต่ทางจังหวัดระยองได้นำเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่เมืองแกลง
เส้นทางการเดินทาง
สุนทรภู่และคณะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเรือ มุ่งหน้าสู่ปากลัด ผ่านคลองบางกอกน้อย คลองบางระจ้าวก่อนจะออกสู่ทะเล ผ่านคลองมะยม เกาะสีชัง เกาะขาม เกาะเสม็ด เข้าสู่อ่าวพัทยา ขึ้นบกที่บางปลาสร้อย เดินทางต่อไปยังเมืองระยอง แต่ไม่พบพ่อของเขาที่บ้าน เพราะพ่อไปบวชอยู่ที่วัดอารัญธรรม รังสี สุนทรภู่จึงตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
- ส่วนที่ 1: กล่าวถึงความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจที่ต้องพลัดพรากจากคนรัก ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง
- ส่วนที่ 2: บรรยายภาพความสวยงามของธรรมชาติระหว่างการเดินทาง สภาพท้องถิ่น วิถีชีวิตของผู้คน และการประสบกับอุปสรรคต่างๆ ระหว่างทาง
- ส่วนที่ 3: กล่าวถึงความรู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงคนรัก และความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง
ความสำคัญของนิราศเมืองแกลง
นิราศเมืองแกลง นับว่าเป็นผลงานที่มีคุณค่าทางวรรณศิลป์อย่างมาก เพราะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภาษาที่ใช้สละสลวย งดงาม บ่งบอกถึงความสามารถทางภาษาของสุนทรภู่ นิราศเมืองแกลง ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นวรรณคดีประเภทนิราศเรื่องเยี่ยม
นอกจากนี้ นิราศเมืองแกลง ยังมีจุดเด่นอื่นๆ ดังนี้
- เป็นการใช้ภาษาที่สละสลวย งดงาม
- มีการบรรยายภาพธรรมชาติได้อย่างละเอียดและคมชัด
- สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง
- ให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
นิราศเมืองแกลง จึงเป็นผลงานกวีที่ควรค่าแก่การอ่านและศึกษา เพราะเป็นวรรณคดีที่มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ และให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมไทยในอดีตได้เป็นอย่างดี