ตัวอย่าง ข้อสอบ เรื่อง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ม.1

วันที่โพสต์

หมวดหมู่

ตัวอย่าง ข้อสอบ เรื่อง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

          ก. เป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 3

          ข. ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2

          ค. ทรงพระราชนิพนธ์ชมฝีพระหัตถ์การทำเครื่องเสวยของพระราชมารดา

          ง. ทรงพระราชนิพนธ์ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร

2. ข้อใด ไม่ใช่ บทเห่ในกาพน์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

          ก. บทเห่เจ้าเซ็น

          ข. บทเห่ชมผลไม้

          ค. บทเห่ชมธรรมชาติ

          ง. บทเห่ชมเครื่องคาว

3. ข้อใดกล่าว ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับรูปแบบคำประพันธ์ของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

          ก. แต่งด้วยโครงผสมกาพย์

          ข. ตอนต้นเป็นโคลงสี่สุภาพ

          ค. แต่งตามแบบกาพย์เห่เรือ

          ง. แต่งกาพย์ยานี 11 เพียง 1 บท ขยายความต่อจากโคลง

4. ข้อใด ไม่ใช่ บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2

          ก. พระอภัยมณี

          ข. บทละครในเรื่องอิเหนา

          ค. บทละครนอกเรื่องไกรทอง

          ง. บทละครนอกเรื่องสังข์ทอง

5. ข้อใดมีการเล่นคำ

          ก. ช้าวหุงปรุงอย่างเทศ     รสพิเศษใส่ลูกเอ็น

          ข. เทโพพื้นเนื้อท้อง   เป็นมันย่องล่องลอยมัน

          ค. ล่าเตียงคิดเตียงน้อง     นอนเตียงทองทำเมืองบน

          ง. ยำใหญ่ใส่สารพัด     วางจานจัดหลายเหลือตรา

6. ข้อใดมีการใช้อุปมา

          ก. รสดีด้วยน้ำปลา     ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

          ข. ใครหุงปรุงไม่เป็น     เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ

          ค. หมูแนมแหนมเลิศรส     พร้อมพริกสดใบทองหลาง

           ง. นกพรากจากรังรวง     เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

7. ข้อใดเด่นที่การเล่นเสียงวรรณยุกต์

          ก.        มัสมั่นแกงแก้วตา           หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

             ชายใดได้กลืนแกง                 แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

          ข.        เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า     รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน

             เจ็บไกลใจอาวรณ์                 ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

          ค.        ขนมจีบเจ้าจีบห่อ          งามสมส่อประพิมพาย

             นึกน้องนุ่งจีบถวาย                ชายพกจีบกลีบแนบเนียน

          ง.        ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น        วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย

             รสทิพย์หยิบมาโปรย             ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ

8. “ใครหุงปรุงไม่เป็น     เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ” หมายความว่าอย่างไร

          ก. เพื่อของผู้แต่งปรุงอาหารได้เก่งมาก

          ข. ไม่ว่าใครหุงก็ไม่อร่อยเหมือนที่นางทำ

          ค. นางเป็นคนคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาเอง

          ง. หากใครหุงไม่เป็น นางก็พร้อมจะสอนให้

9. “ช้าช้าพล่าเนื้อสด      ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม” หมายความว่าอย่างไร

          ก. พล่าเนื้อสดที่นางทำมีกลิ่นหอมมาก

          ข. พล่าเนื้อสดที่นางทำส่งกลิ่นหอมอยู่ได้ไม่นาน

          ค. เพราะนางทำพล่าเนื้อสดอย่างใจเย็น จึงทำให้มีกลิ่นหอม

          ง. ผู้ประพันธ์บอกให้นางทำพล่าเนื้อสดอย่างช้า ๆ เพื่อจะได้มีกลิ่นหอม

10. “อาหารว่างทำด้วยไข่โรยเป็นฝอยบนกระทะ แล้วหุ้มไส้ที่ทำด้วยกุ้งสับปรุงรสพับห่อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ บางแห่งเรียกว่า หรุ่ม” หมายถึงอาหารชนิดใด

          ก. พล่า

          ข. ก้อย

          ค. เทโพ

          ง. ล่าเตียง

11. “รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน” คำว่า “ไฟฟอน” หมายถึงอะไร

          ก. กองไฟที่ลุกโชน

          ข. ไฟแห่งกามารมณ์

          ค. กองไฟที่ดับสนิทจนเย็นแล้ว

          ง. กองไฟที่ดับแล้วแต่ยังมีความร้อนระอุอยู่

12. “แกงชนิดหนึ่งคล้ายแกงคั่วแต่ใส่มะระ มักแกงกับปลาดุก” หมายถึงอาหารชนิดใด

          ก. อ่อม

          ข. มัสมั่น

          ค. ไตปลา

          ง. แกงขม

13. ข้อใด ไม่มี การเล่นคำ

          ก. ใบโศกบอกโศกครวญ  ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ

          ข. ผักโฉมชื่อพร้อง         เป็นโฉมน้องฤาโฉมไหน

          ค. รสทิพย์หยิบมาโปรย   ฤาจะเปรียบเทียบทันขวัญ

          ง. ขนมจีบเจ้าจีบห่อ       งามสมส่อประพิมพาย

             นึกน้องนุ่งจีบถวาย      ชายพกจีบกลีบแนบเนียน

14. ข้อใดมีการใช้อติพจน์

          ก. ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น     วางถึงสิ้นดิ้นแดโดย

          ข. ไตปลาเสแสร้งว่า       ดุจวาจากระบิดกระบวน

          ค. ลดหลั่นชั้นชอบกล     ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

          ง. โอชาจะหาไหน         ไม่อาจเทียบเปรียบมือนาง

15. ข้อใดไม่ใช่สิ่งที่จะสะท้อนจากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

          ก. อาหารไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

          ข. ทำให้ได้รู้จักอาหารไทยโบราณ

          ค. อาหารเป็นสิ่งแสดงความรัก ความเอาใจใส่

          ง. การประกอบอาหารเป็นทั้งประณีตและวิจิตรศิลป์