ข้อสอบภาษาไทย ม.1

วันที่โพสต์

หมวดหมู่

ตัวอย่างข้อสอบภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

1. ข้อใดมีหน่วยเสียงสระเดี่ยวเดียวกันทุกคำ 

ก. รัก จันทร์ จ้ะ 

ข. แพง แคระ แข็ง 

ค. ตก โต๊ะ โบก 

ง. เปิด เทอม เปรม 

2. ข้อใดมีคำประสม  

ก. น้องไปซื้อหนังสือที่ร้านสีแดงติดกับโรงเรียน 

ข. พี่รับประทานขนมของร้านนั้นจนติดใจ 

ค. เขารับประทานก๋วยเตี๋ยวทุกเย็น 

ง. พ่อติดกระดุมเสื้อให้น้อง

3. ข้อใดเขียนสะกดคำ ได้ถูกต้อง 

ก. เขาทำ โครงการณ์เพื่อพัฒนาโรงงานที่กาญจนบุรี 

ข. ห้ามญาติคนไข้เข้าห้องนี้ก่อนได้รับอนุญาต 

ค. เมื่อวันจันทร์ฉันไปซื้อลูกจันฑ์ให้คุณยาย 

ง. หมู่บ้านจัดสรรที่นี่มีสีสันสดใส 

4. ข้อใดปรากฏคำอาการนาม  

ก. วันดีขยันเรียนและตั้งใจทำการบ้าน 

ข. การไฟฟ้านครหลวงแนะวิธีลดค่าไฟ 

ค. การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด 

ง. พ่อมีอาการปวดศีรษะหลังจากดื่มกาแฟ

5. ควรเติมข้อใดลงในช่องว่างของคำประพันธ์ต่อไปนี้ 

ขยะทั้งหลายนี้             _________
ไม่ต้องคอยใครสั่ง        ปลูกฝังให้เป็นนิสัย    

ก. แยกให้ดีก่อนลงถัง   

ข. ดูสีถังแล้วค่อยทิ้ง   

ค. จงพินิจก่อนจะฝัง   

ง. ต้องแบ่งให้ถูกฝั่ง 

6. ข้อใดใช้สำนวนได้ถูกต้อง  

ก. ฟ้าใสมีปัญหากับน้อยหน่าอยู่เสมออย่างกับเกลือจิ้มเกลือ 

ข. วารีกับนทีเวลาอยู่ด้วยกันเหมือนขมิ้นกับปูนทะเลาะกันทุกที

ค. บัวเป็นคนไม่แน่นอน มีจิตใจโลเลเหมือนเจ้าไม่มีศาล สมภารไม่มีวัด

ง. น้ำชอบช่วยเหลือคนไร้บ้านโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างกับขนมพอสมน้ำยา

7. ข้อใดปฏิบัติตามหลักการคัดลายมือได้ถูกต้อง  

ก. ปิ่นเขียนหัวตัวอักษรใหญ่กว่าปกติเพื่อให้มองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจน 

ข. ดินเริ่มเขียนตัวอักษรจากหัวตัวอักษรแล้วลากตามแนวเส้นตัวอักษร 

ค. หินเขียนตัวอักษรโดยเว้นช่องไฟกว้าง ๆ เพื่อให้ข้อความอ่านง่าย 

ง. สินเขียนตัวอักษรเอียงไปด้านหลังเพื่อให้ข้อความน่าอ่าน

8. ข้อใดเป็นข้อบกพร่องในการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ต่อไปนี้  

ก. คำขึ้นต้นของจดหมาย 

ข. คำลงท้ายของจดหมาย 

ค. วัตถุประสงค์ของการเขียนไม่ชัดเจน 

ง. มีการใช้ภาษาพูดและถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม 

9. ข้อใดเป็นลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์  

ก. นายเต้าได้ออกสำรวจตามลุ่มแม่น้ำวังที่มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ท่านพบที่ดินที่เป็นป่า มีวัดร้างหลายวัด ชาวบ้าน ไม่กล้าเข้าไปฟันไม้หรือบุกเบิกให้เป็นที่นาเพราะกลัวผีจะทำร้าย แต่นายเต้าไม่กลัวเรื่องนี้ จึงเริ่มบุกเบิกแล้วถางป่า ฟันต้นไม้ออกจากป่าริมแม่น้ำวังที่บ้านทุ่งฝาย แล้วลงมือหว่านข้าวในที่นั้นให้เป็นที่ทำนา 

ข. ต่อมาเมื่อกรุงเทพมหานครจัดรูปแบบเป็นเขตการปกครอง หนองค้างพลูก็เป็นชื่อหนึ่งของแขวงและขึ้นตรงต่อ เขตหนองแขม ชาวชุมชนก็ยังคงเรียกตนเองว่าเป็นคน “หนองแขม” 

ค. ในบรรดาเครื่องสวมหัวประดับหัว ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องหมายยศสูงสุด ได้แก่ มงกุฎ เฉพาะมงกุฎไทยที่เป็นเครื่องต้นของพระมหากษัตริย์ เรียกว่าพระมหาพิชัยมงกุฎหรือเรียกย่อว่าพระมหามงกุฎ 

ง. วังไชยา เป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า สุริยงประยุรพันธุ์ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส

10. ข้อใดเขียนแสดงความคิดเห็นจากบทความต่อไปนี้ได้ถูกต้องและเหมาะสม

          นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คุณแม่ท่านหนึ่ง ต้องเสียลูกน้อยวัย 3 เดือน ซึ่งอยู่ระหว่างการหาสาเหตุแต่จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าใช้นมข้นหวานเลี้ยงเด็กทารก แทนนมแม่ เนื่องจากทางบ้านไม่มีเงินซื้อนม กรมอนามัยได้ยํ้าเตือนและให้ข้อมูลมาตลอดว่า นมแม่นั้นเข้มข้น ด้วยสารอาหาร สารภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน และสารอาหารต่าง ๆ ที่เหมาะกับการเจริญเติบโต และช่วยพัฒนาสมอง ของทารกวัยแรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเงินซื้อ และช่วยให้แม่ไม่มีน้ำหนักคงค้าง  

          องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่าทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน ควรได้ดื่มนมแม่อย่างเดียว อีกทั้งนมข้นหวาน ไม่ควรนำมาเลี้ยงทารก เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักแค่ไขมัน น้ำตาล โซเดียม ต่างจากนมแม่ที่มีสารอาหารมากกว่า และนมผงดัดแปลงสำหรับเด็กซึ่งเป็นนมสำหรับเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะการนำนมข้นหวานมาใช้เลี้ยงทารก หรือหวังเสริมคุณค่าทางอาหารแทนนมแม่ทำให้ทารกเสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน พลังงานและสารอาหารส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันตํ่า ติดเชื้อง่าย และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ก. นมข้นหวานมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่บ้าง สามารถให้เด็กทารกดื่มแทนนมแม่ได้ แต่ควรให้ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

ข. ความสามารถในการเลี้ยงเด็กทารกของแต่ละครอบครัวมีความแตกต่างกัน เราไม่ควรตัดสินการกระทำของแม่ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง 

ค. การให้ทารกดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือน อาจทำ ให้ทารกติดนมแม่จนไม่ยอมดื่มนมผงหรือ รับประทานอาหารสำหรับเด็ก 

ง. การเลี้ยงเด็กทารกควรให้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากในน้ำนมแม่มีสารอาหารที่จำ เป็นต่อการเจริญเติบโต และควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุตรมากกว่าความสะดวกสบายหรือการประหยัดเงิน

11. ข้อใดเขียนจุดประสงค์ของจดหมายกิจธุระได้ชัดเจน และเหมาะสมที่สุด  

ก. ขอแสดงความนับถือและขอขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์ จากการที่ท่านมาเป็นวิทยากรในงานวันวิทยาศาสตร์ ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในกิจกรรมครั้งหน้าท่านจะมาร่วมกิจกรรมอีกครั้ง 

ข. เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีความประสงค์จะขอใช้หอประชุมขนาดใหญ่ของโรงเรียนบ้านน้ำกุน จึงขออนุญาตใช้ สถานที่ดังกล่าว ในวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2565  

ค. เนื่องด้วยข้าพเจ้าจัดกิจกรรมวันภาษาไทย ประจำปีการศึกษา 2566 และอยากให้ท่านมาเป็นวิทยากรตลอดการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนของเรา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะให้ความอนุเคราะห์ในการมาเป็นวิทยากร

ง. เนื่องด้วยกระผมมีความสนใจในเรื่องการทอผ้าพื้นเมืองและต้องการเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก ภายในโรงเรียน จึงขอเรียนเชิญท่านมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น หัตถศิลป์ผ้าพื้นเมือง ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 13.00-16.00 น. ณ โรงเรียนบ้านกลาง  

12. ข้อใดเป็นการเขียนจุดมุ่งหมายของการเขียนรายงานโครงงาน  

ก. เพื่อศึกษาที่มาของการตั้งชื่ออำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี 

ข. ทราบประวัติความเป็นมาของชื่ออำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี 

ค. ศึกษาชื่ออำเภอจากจังหวัดอื่น ๆ เพื่อจะได้ทราบที่มาของอำเภอนั้น ๆ 

ง. การศึกษาครั้งนี้ได้มาจากการสัมภาษณ์ผู้รู้และปราชญ์ชาวบ้านในหมู่บ้าน  

13. ข้อใดพูดสรุปความรู้จากเรื่องต่อไปนี้ได้ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด  

          คุณผู้ฟังครับ วันนี้เรามาฟังกันในเรื่อง สัตว์สุขภาพไม่ดี จัดการอย่างไร เป็นผลงานของ ผศ. น.สพ. ดร.สุเจตน์  ชื่นชม ภาควิชาสัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสนครับ ก่อนอื่นเลย เรามาฟังการจัดการสุขภาพสุกร ในมุมมองของ ผศ. น.สพ. ดร.สุเจตน์ ชื่นชม กันครับ ท่านได้กล่าวว่าเมื่อพบว่าสุกรป่วยเป็นโรคหรือสุขภาพไม่ดี อันดับแรกคือ จะต้องแยกโรคให้ออกก่อนว่า อยู่ในประเด็นใดใน 2 ประเด็นหลัก นั่นคือ โรคที่เป็นแล้วรักษาไม่ได้  ได้แก่ โรคทางพันธุกรรมนั่นเองครับ อย่างเช่นโรคขาแป ขางอ ไส้เลื่อน หัวบาก รูทวารไม่มี โรคเหล่านี้เป็นความผิดปกติ ทางพันธุกรรม รักษาไม่ได้จะต้องทำลายทิ้งอย่างเดียวครับ เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการจัดการด้านพันธุกรรม เช่น  การผสมเลือด และโรคที่เป็นแล้วรักษาให้หายได้ สุกรที่ป่วยด้วยโรคประเภทนี้ ลักษณะที่พบโดยทวไป ได้แก่ อาการ คอตก หงอย ซึม สกปรก โรคผิวหนัง ชัก ท้องเสีย ฯลฯ สาเหตุของการเกิดโรค มักเกิดจากการติดเชื้อจากสิ่งสกปรก  นั่นเองครับ เมื่อสัตว์มีภูมิคุ้มกันไม่มากพอที่จะคุมเชื้อโรคตัวนั้น โรคก็จะแสดงอาการขึ้นมาครับ อาจารย์จึงใช้ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่า ฟาร์มนี้มีการจัดการดีหรือไม่ เพราะถ้ามัวแต่รักษาอาการโรคสุกรแต่ไม่ไปดูที่ต้นน้ำเลย  ปัญหาแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ 
ที่มา : บทวิทยุรายการ “จากแฟ้มงานวิจัย มก.” เรื่อง สัตว์สุขภาพไม่ดี จัดการอย่างไร  
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ. 2559 

ก. เมื่อสุกรป่วยหรือสุขภาพไม่ดีควรแยกโรคว่าเป็นโรคที่เป็นแล้วรักษาไม่ได้หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายได้
เพื่อหาสาเหตุของการเกิดโรค และแนวทางการรักษา ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าฟาร์มนั้นมีการจัดการที่ดีหรือไม่

ข. สุกรมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ตลอดเวลา ทั้งโรคที่เกิดจากพันธุกรรมและโรคที่เกิดจากสิ่งสกปรก ฟาร์มจึงควร จัดการความสะอาดของพื้นที่เลี้ยงสัตว์ให้ดี 

ค. สุกรที่เป็นโรคที่รักษาให้หายได้ สาเหตุของการเกิดโรคมักเกิดจากการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกเพราะการจัดการ ความสะอาดในฟาร์มไม่ดี 

ง. ก่อนการรักษาโรคในสุกรควรหาสาเหตุของโรคซึ่งมักเกิดจากการจัดการความสะอาดในฟาร์มที่ไม่ดี แล้วจึงใช้วิธี รักษาที่ถูกต้องตามโรคนั้น

14. ข้อใดเป็นรูปแบบการพูดเสนอความรู้ที่เหมาะกับการพูดในหัวข้อ การสาธิตการใช้โปรแกรม Zoom  

ก. การพูดเสนอความรู้ในรูปแบบการพูดบรรยายสรุป 

ข. การพูดเสนอความรู้ในรูปแบบการพูดเล่าเรื่อง 

ค. การพูดเสนอความรู้ในรูปแบบการพูดบรรยาย 

ง. การพูดเสนอความรู้ในรูปแบบการพูดอธิบาย 

15. ข้อใดพูดแสดงความคิดเห็นจากการฟังได้สอดคล้องกับเรื่องนี้มากที่สุด  

          PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือเล็กประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผม มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ลอยอยู่ในอากาศได้นาน อาจมีสารพิษเกาะมาด้วย ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 คือ แหล่งกำเนิด 3 อย่าง ได้แก่
 
1. แหล่งกำ เนิดโดยตรง ได้แก่ การเผาในที่โล่ง การจราจรและขนส่ง โรงงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม การเผาเชื้อเพลิง 

2. แหล่งกำ เนิดทางอ้อม ได้แก่ ฝุ่นทุติยภูมิ เกิดจากก๊าซไนโตรเจนออกไซด์และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมตัวกับสารประกอบแอมโมเนีย แอมโมเนียมไนเตรต แอมโมเนียมซัลเฟต 

3. มลพิษข้ามพรมแดนที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน 
ที่มา : https://www.thaihealth.or.th/การดูแลและป้องกันตนเอง

ก. การลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 สิ่งที่เราสามารถทำได้ คือ ลดการสร้างฝุ่นควันจากฝีมือมนุษย์ เช่น การเผาขยะ การเผาเชื้อเพลิงของรถยนต์ การปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม

ข. สาเหตุที่ทำ ให้เกิดฝุ่น PM 2.5 เกิดจากแหล่งกำเนิดโดยตรง เช่น การเผาไหม้ในที่โล่ง การจราจรติดขัด โรงงานอุตสาหกรรม 

ค. PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ลอยอยู่ในอากาศได้นาน อาจมีสารพิษเกาะมาด้วย 

ง. มลพิษข้ามพรมแดนที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสาเหตุที่ทำ ให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ได้มากที่สุด

16. คำประพันธ์ในข้อใดสอนให้ระมัดระวังจิตใจและความคิดของมนุษย์  

ก. หิ่งห้อยส่องก้นซู่          แสงจันทร์ 

ปัดเทียบเทียมรัตน์อัน       เอี่ยมข้า 

ทองเหลืองหลู่สุวรรณ       ธรรมชาติ 

พาลว่าตนเองอ้า             อาจล้ำเลยกวี

ข. ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น       นักเรียน 

ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร            ผ่ายหน้า 

คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน   วนจิต 

 กลอุทกในตะกร้า              เปี่ยมล้นฤามี 

ค. พระสมุทรสุดลึกล้น        คณนา 

 สายดิ่งทิ้งทอดมา             หยั่งได้ 

 เขาสูงอาจวัดวา               กำหนด 

 จิตมนุษย์นี้ไซร้                ยากแท้หยั่งถึง

ง. รักกันอยู่ขอบฟ้า        เขาเขียว 

เสมออยู่หอแห่งเดียว      ร่วมห้อง 

 ชังกันบ่แลเหลียวตาต่อ   กันนา 

เหมือนขอบฟ้ามาป้อง      ป่าไม้มาบัง 

17. ข้อใดปรากฏภาพพจน์อุปมา  

ก. นกน้อยขนน้อยแต่      พอตัว 

รังแต่งจุเมียผัว                 อยู่ได้ 

มักใหญ่ย่อมคนหวัว           ไพเพิด 

ทำแต่พอตัวไซร้                อย่าให้คนหยัน

ข. เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม       ดนตรี 

อักขระห้าวันหนี                เนิ่นช้า 

สามวันจากนารี                 เป็นอื่น 

วันหนึ่งเว้นล้างหน้า            อับเศร้าศรีหมอง

ค. ผจญคนมักโกรธด้วย    ไมตรี 

ผจญหมู่ทรชนดี                ต่อตั้ง 

ผจญคนจิตโลภมี               ทรัพย์แผ่เผื่อนา 

ผจญอสัตย์ให้ยั้ง                หยุดด้วยสัตยา

ง. ทำบุญบุญแต่งให้        เห็นผล 

คือดั่งเงาตามตน                ติดแท้ 

ผู้ทำสิ่งอกุศล                   กรรมติดตามนา 

ดุจจักรเกวียนเวียนแล้ว       ไล่ต้อน ตีนโค

18. ข้อใดเป็นคำสอนให้ปฏิบัติตนต่อผู้ใหญ่  

ก. อย่ากอปรจิตริษยา     เจรจาตามคดี 

ข. เมื่อพาทีพึงตอบ        จงนบนอบผู้ใหญ่ 

ค. น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ   ที่ซุ่มเสือจงประหยัด 

ง. ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ   สุวานขบอย่าขบตอบ 

19. ข้อใดใช้ภาพพจน์สัทพจน์  

ก. กะลิงกระลางนางนวลนอนเรียง    พญาลอคลอเคียง 

แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง

ข. กลางไพรไก่ขันบรรเลง    ฟังเสียงเพียงเพลง 

ซอเจ้งจำ เรียงเวียงวัง

ค. ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง    เพลินฟังวังเวง 

อีเก้งเริงร้องลองเชิง

ง. เห็นกวางย่างเยื้องชำ    เลืองเดินเหมือนอย่างนางเชิญ 

พระแสงสำอางข้างเคียง 

20. ข้อใดเป็นข้อคิดของนิทานต่อไปนี้  

นิทานอีสป เรื่อง ไก่ได้พลอย
          เช้าวันหนึ่งขณะที่พ่อไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดิน ก็เขี่ยเจอพลอยเม็ดงามส่องประกายวิบวับ
จึงรำพึงขึ้นว่า ถ้าช่างทองมาเห็นพลอยงามเม็ดนี้คงจะดีใจมาก แต่สำหรับข้าแล้ว ข้าวแค่เม็ดเดียวยังมีค่ามากกว่าพลอยเม็ดโตเสียอีก ในที่สุดพ่อไก่ก็เลิกสนใจพลอยเม็ดนั้น แล้วหันไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารของตัวเองต่อไป 
ที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2272461

ก. บางสิ่งมีค่าแค่สำหรับบางคน 

ข. สิ่งมีค่ามักอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม 

ค. คนที่ทำสิ่งใดไม่สำเร็จ มักตำหนิว่าสิ่งนั้นด้อยค่า 

ง. อย่าดูแคลนสิ่งที่มีค่าหากไม่รู้จักใช้สิ่งนั้นให้เกิดประโยชน์

21. ประโยคในข้อใดมีสระเกินมากที่สุด

ก. ฤทัยไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่

ข. ฉันรู้สึกไม่สบายเพราะเป็นไข้หวัดใหญ่

ค. เขาเสียดายคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เจ้าของไม่ดูแล

ง. พระฤาษีมอบผอบให้จันทโครพนำกลับไปเปิดที่เมืองของตน

22. สำนวนในข้อใดไม่ปรากฏสระประสม

ก. กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา

ข.กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้

ค. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน

ง. จับแพะชนแกะ

23. สำนวนในข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทั้งห้าเสียง

ก. ปลาหมอตายเพราะปาก

ข. น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

ค. คดในข้องอในกระดูก

ง. ทรัพย์ในดินสินในน้ำ

24. คำประพันธ์ในข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทุกเสียง

ก. ช้าช้าพล่าเนื้อสด

ข. เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

ค. โอชารสกว่าทั้งปวง

ง. ผักหวานซ่านทรวงใน

25. ข้อใดมีคำตายมากที่สุด

ก. แม้นกำเนิดเกิดชาติใดใด ขอให้ได้เป็นข้าฝ่าธุลี

ข. โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าช่างน่าอาย

ค. เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น คิดก็เป็นอนิจจังเสียทั้งนั้น

ง. ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา

ตอนที่ 2
          แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แต่่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องมากกว่า 1 คำตอบ โดยอาจมีีคำตอบที่่ถูกต้องจำนวน 2 คำตอบ หรือ 3 คำตอบ หรือ 4 คำตอบ นักเรียนเขียนเครื่องหมาย ✕ ทับตัวอักษรหน้าคำตอบที่่ถูกต้อง ให้ครบถ้วนทุกคำตอบ จึงจะได้คะแนน ้ ข้อละ 2 คะแนน จำนวน 5 ข้อ

26. ข้อใดอ่านออกเสียงคำที่ขีดเส้นใต้ได้ถูกต้อง  

ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เอกอัครราชทูต (เอก – อัก – คฺระ – ราด – ชะ – ทูด) ต่างประเทศประจำประเทศไทย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระราชสาส์นตราตั้ง

ข. เราต้องเสริมสร้างสมรรถนะ (สะ – หฺมัด – ถะ – นะ) ให้กับพนักงานทุกคน เพื่อตัวของพนักงานและบริษัทของเรา 

ค. จันทรคติ (จัน – ิ ทะ – คะ – ติ) เป็นวิธีนับวันและเดือนโดยถือเอาการเดินของดวงจันทร์เป็นหลัก

ง. ส้มมีคุณประโยชน์ (คุน – ปฺระ – โหฺยด) ช่วยแก้ท้องผูกกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงหัวใจ

อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม ข้อ 27-28 
          นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การรับประทานเจติดต่ออกันเป็นเวลา 9 วัน  ส่งผลให้ร่างกายมีการปรับสภาพของระบบการย่อยอาหารจากที่ย่อยเนื้อสัตว์มาย่อยพืชผักเป็นหลักแทน หลังออกเจ ในช่วง 2-3 วันแรก ประชาชนควรปรับสภาพร่างกายด้วยการรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย ประเภทเนื้อปลา ไข่ นม  ผักและผลไม้ ให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เลือกรสไม่จัด เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม และอาหารย่อยยากอย่าง เนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อวัว เนื้อหมู เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับระบบการย่อยอาหารจากพืชผักมาเป็นเนื้อสัตว์ในช่วงแรก เพราะหากรับประทานอาหารที่ย่อยยากหรืออาหารตามปกติเลย อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง   และย่อยอาหารได้ไม่ดี 

          เมนูอาหารย่อยง่าย  อาทิ ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ปลานึ่งขิง แกงจืดเต้าหู้ไข่ใบตำลึง สำหรับผู้ที่ต้องการจะกลับมา ดื่มนมวัวหลังออกเจ แนะนำ ให้เริ่มดื่มครั้งละน้อย ประมาณครึ่งแก้ว และสามารถเพิ่มเป็นครั้งละ 1 แก้วได้ในเวลา ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือดื่มนมหลังอาหารขณะที่ท้องไม่ว่าง หรือดื่มนมในช่วงสายหรือช่วงบ่ายในมื้ออาหารว่าง หรือเลือกผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการย่อยน้ำตาลแลคโตสบางส่วนโดยจุลินทรีย์ เช่น โยเกิร์ต หรืออาจดื่มนมถั่วเหลือง ทดแทนไปก่อน เมื่อรู้สึกว่าร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารกลับสู่ภาวะเดิมได้แล้ว ก็สามารถรับประทานอาหาร และดื่มนมได้ตามปกติ 
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

27. ข้อใดสรุปใจความสำคัญของข้อความข้างต้นได้ถูกต้อง  

ก. หลังออกเจควรปรับสภาพร่างกายด้วยการรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย 

ข. หลังจากออกเจสามารถรับประทานเนื้อสัตว์และอาหารต่าง ๆ ได้ตามปกติ 

ค. หลังจากออกเจในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารย่อยยาก 

ง. หลังออกเจควรปรับสภาพการย่อยอาหารให้กลับสู่ภาวะปกติก่อน

28. ข้อใดนำสาระสำคัญจากข้อความข้างต้นไปปรับใช้ในชีวิต 

ก. ยิ้มรับประทานปลานึ่งตะไคร้หลังออกเจ 

ข. ขิมดื่มนมวันละครึ่งแก้วติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์หลังออกเจ 

ค. กล้ารับประทานอาหารรสไม่จัด เน้นสารอาหารครบ 5 หมู่หลังออกเจ 

ง. ส้มไม่รับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม และอาหารย่อยยากหลังออกเจ

29. การกระทำ ในข้อใดอธิบายคำว่า หน้าสด ได้ถูกต้องตามข้อความต่อไปนี้

หน้าสด
          คำว่า “หน้าสด” ประกอบด้วยคำว่า หน้า กับ สด คำว่า หน้า นอกจากหมายถึงส่วนของศีรษะตั้งแต่หน้าผาก ลงมาจรดคางและซีกของร่างกายที่อยู่ตรงข้ามกับหลังแล้ว ยังมีความหมายอื่น ๆ อีก เช่น ส่วนหน้าของขาซึ่งเรียกว่า  หน้าขา, ส่วนบนของสิ่งของบางอย่าง อาทิ หน้าขนม ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง หน้าปกหนังสือ, หมายถึงฤดูกาล เช่น หน้าทุเรียน หน้าแล้ง หน้าหนาว หน้าฉาก หมายถึง ที่แสดงให้ปรากฏอย่างเปิดเผย เช่น หน้าฉากเขาทำตัวเป็นคนดี แต่หลังฉากเป็น โจรปล้นทรัพย์ชาวบ้าน ส่วนคำว่า สด มีความหมายว่า ใหม่หรือเพิ่งได้มาใหม่ เช่น ปลาตัวนี้เพิ่งจับมาได้ จึงยังสด อยู่มาก มีความหมายว่าดิบหรือยังไม่สุกด้วยไฟ เช่น ฉันชอบกินผักสด มีความหมายว่าไม่แห้ง เช่น เขาชอบกิน ยำปลาหมึกสด, สมัยนี้มีคนทำขนมเปียกปูนสดออกขาย สด หมายถึง ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เช่น พูดสดออกมาทันที
 
          ปัจจุบันมีผู้นำคำว่า สด มาใช้ในความหมายว่า ยังไม่ปรุงแต่ง เช่นคำว่า หน้าสด หมายถึง ใบหน้าที่ปราศจาก เครื่องสำอางใด ๆ เช่น ดาราคนนี้โฆษณาครีมบำรุงผิวด้วยการล้างเครื่องสำอางออกจนหมด เพื่ออวดหน้าสดที่ดูอ่อนนุ่มและเกลี้ยงเกลาของเธอ  

          คำว่า “หน้าสด” นี้ในอักขราภิธานศรับท์ซึ่งเป็นพจนานุกรมสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เก็บไว้ที่คำ ว่า “อีหน้าสด”  ให้ความหมายไว้ว่า เป็นคำหยาบด่าประจานหญิงว่ามีหน้าระรื่นอย่างหญิงคนชั่วอยู่เป็นนิจ 
ที่มา : สำนักงานราชบัณฑิตยสภา 

ก. น้อยหน่าไม่แต่งหน้าไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อน  

ข. ใบชาทดลองเครื่องสำอางที่ได้รับจากเพื่อนเมื่อเธอแต่งหน้าแล้วเหมือนหน้าสด  

ค. ใบเฟิร์นล้างหน้าให้สะอาดเพื่อนำ เสนอประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวหน้าที่ตนเองใช้

ง. แพรวพราวไม่ใช้ครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางทุกชนิดทำ ให้หน้าของเธอเรียบเนียนและนุ่ม

30. ข้อใดเป็นความหมายของคำว่า ลั่นถัน จากข้อความต่อไปนี้ 

หนังสือตุ๊กตาศิลาจีนวัดโพธิ์ กล่าวว่า จากจารึกเรื่องรัชกาลที่ 1 ทรงสร้างวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม  (วัดโพธิ์) ทำให้ทราบว่าได้สร้างรูปอสูรหรือรูปยักษ์ปูนปั้นถือกระบองขนาดใหญ่ไว้ประดับซุ้มประตู ประตูละคู่  แต่เมื่อครั้งรัชกาลที่ 3 ทรงบูรณะนั้นทรงรื้อลงหมด แล้วตั้งรูปลั่นถันประตูละคู่แทน  
          ลั่นถันหรือตุ๊กตาจีนประดับซุ้มประตูเป็นรูปขุนนางฝ่ายบู๊ ซึ่งมีรูปร่างขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน และมีหน้าตา ดุร้ายคล้ายยักษ์ เพราะคงเห็นว่าจะทำให้ดูต่างไปจากวัดอรุณราชวราราม และวัดพระแก้วที่มีรูปยักษ์อยู่แล้ว 
          ‘ลั่นถัน’ที่เห็นในวัดโพธิ์ก็คือบรรดาตุ๊กตาศิลาจีนทั้งหลาย มีทั้งขุนนางฝ่ายบุ๋นและบู๊ รูปสัตว์ และรูปประชาชน ทั่วไป ส่วนเขามอคือภูเขาจำลองที่ประดับด้วยต้นไม้ ตุ๊กตาจีน เจดีย์จีน ตึกจีน 
ที่มา : https://www.readthecloud.co/scoop-wat-pho/

ก. ตุ๊กตาศิลาจีนของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) 

ข. ตุ๊กตาศิลารูปสัตว์ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) 

ค. ตุ๊กตาศิลารูปประชาชนทั่วไปของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) 

ง. ตุ๊กตาศิลารูปอสูรหรือรูปยักษ์ปูนปั้นถือกระบองขนาดใหญ่ไว้ประดับซุ้มประตูของวัดพระเชตุพนวิมลมัง  
คลาราม  (วัดโพธิ์)