ข้อสอบ เรื่อง นิราศภูเขาทอง ม.1

วันที่โพสต์

หมวดหมู่

ตัวอย่างข้อสอบ เรื่อง นิราศภูเขาทอง วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

1. ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับนิราศภูเขาทอง

          ก. สุนทรภู่แต่งสมัยรัชกาลที่ 3

          ข. แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ

          ค. กล่าวว่าเริ่มต้นออกเดินทางจากวัดราชบูรณะ

          ง. กล่าวถึงการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองที่พระนครศรีอยุธยา

2. ข้อใด ไม่ใช่ นิราศของสุนทรภู่

          ก. รำพันพิลาป             ข. นิราศสุพรรณ

          ค. นิราศกวางตุ้ง           ง. นิราศเมืองเพชร

3. นิราศเรื่องใดของสุนทรภู่ ไม่ได้ มีเนื้อหาบันทึกการเดินทางของผู้ประพันธ์

          ก. นิราศอิเหนา            ข. นิราศพระบาท

          ค. นิราศเมืองแกลง        ง. นิราศพระประธม

4. ข้อใด ไม่ใช่ ความรู้สึกของสุนทรภู่ที่สะท้อนในนิราศภูเขาทอง

          ก. ความเศร้าโศกที่ชีวิตตกอับ                ข. ความลำบากของการเดินทาง

          ค. การตั้งความปรารถนาให้ชีวิตดีขึ้น        ง. ความสนุกจากการท่องเที่ยวผจญภัย

คำประพันธ์ข้อ (ก) – (ง) ใช้ตอบคำถามข้อ 5 – 6

(ก)                ทั้งองค์ฐานรานร้าวถึงเก้าแฉก                เผยอแยกยอดทรุดก็หลุดหัก
          โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก                                เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น
          กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ                            จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น
          เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น                              คิดก็เป็นอนิจจังเสียทั้งนั้น
(ข)                ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า             ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
          เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา                     ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย
(ค)                ทั้งโลโภโทโสและโมหะ                        ทั้งชนะใจได้อย่าใหลหลง
          ขอฟุ้งเฟื่องเรืองวิชาปัญญายง                          ทั้งให้ทรงศีลขันธ์ในสันดาน
(ง)                ไปพ้นวัดทัศนาริมท่าน้ำ                       แพประจำจอดรายเขาขายของ
          มีแพรผ้าสารพัดสีม่วงตอง                              ทั้งสิ่งของขาวเหลืองเครื่องสำเภา

5. คำประพันธ์ข้อใดสอนคติธรรมเรื่องโลกธรรม 8

          ก. (ก)             ข. (ข)

          ค. (ค)             ง. (ง)

6. คำประพันธ์ในข้อใดมีเนื้อหาสะท้อนสภาพสังคม

          ก. (ก)                      ข. (ง)

          ค. (ก) และ (ข)            ง. (ข) และ (ง)

7. คำประพันธ์ในข้อใดมีการเล่นคำ

          ก. โอ้คิดมากสารพัดจะตัดขาด                ตัดสวาทตัดรักมิยักไหว

          ข. ถึงบางหลวงเชิงรากเหมือนจากรัก        สู้เสียศักดิ์สังวาสพระศาสนา

          ค. ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง      ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน

          ง. โอ้รินรินกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคา              เหมือนกลิ่นผ้าแพรดำร่ำมะเกลือ

8. คำประพันธ์ในข้อใดสะท้อนความรู้สึกของสุนทรภู่ ต่าง กับข้ออื่น

          ก. มาจอดท่าหน้าวัดพระเมรุข้าม             ริมอารามเรือเรียงเคียงขนาน

          ข. โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก                    เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น

          ค. ที่งองค์ก่อย่อเหลี่ยมสลับกัน              เป็นสามชั้นเชิงชานตระหง่านงาม

          ง. ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส                 เมื่อตรุษสารทพระพรรษาได้อาศัย

9. คำประพันธ์ในข้อใดสะท้อนความรู้สึกของสุนทรภู่ ต่าง กับข้ออื่น

          ก. ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ       เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา

          ข. โอ้บุญน้อยลอยลับครรไลไกล              เสียน้ำใจเจียนจะดิ้นสิ้นชีวัน

          ค. กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ               จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น

          ง. สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธา                   วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์

10. “ไอ้ลำหนึ่งครึ่งท่อนกลอนมันมาก                 ช่างยาวลากเลื้อนเจื้อยจนเหนื่อยหู”

คำที่พิมพ์ตัวหนาหมายถึงข้อใด

          ก. ไม้ที่ถูกตัดแบ่งครึ่ง                ข. ชื่อเครื่องดนตรีไทย

          ค. เพลงพื้นบ้านชนิดหนึ่ง           ง. ฉันทลักษณ์ประเภทหนึ่ง

11. ข้อใด ไม่มี การเล่นคำชื่อสถานที่

          ก. ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์                 มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

          ข. ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด       บังเกิดชาติแลงหวี่มีในไส้

          ค. ถึงบางจากจากวัดพลัดพี่น้อง              มามัวหมองม้วนหน้าไม่ฝ่าฝืน

          ง. ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า             พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี

12. “พระนิพพานปานประหนึ่งศีรษะขาด             ด้วยไร้ญาติยากแค้นถึงแสนเข็ญ”

คำประพันธ์ข้างต้นหมายความว่าอย่างไร

          ก. สุนทรภู่รู้สึกขาดที่พึ่งเมื่อรัชกาลที่ 2 สวรรคต

          ข. สุนทรภู่ไม่มีญาติให้พึ่งพาจึงรู้สึกเหมือนคนไม่มีศีรษะ

          ค. สุนทรภู่ต้องโทษประหารชีวิตและไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้

          ง. เจ้านายของสุนทรภู่ต้องโทษประหารชีวิตทำให้สุนทรภู่ขาดที่พึ่ง

13. ข้อใด ไม่ได้ แสดงความอาลัยอาวรณ์ที่สุนทรภู่มีต่อรัชกาลที่ 2

          ก. เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ             เคยรับราชโองการอ่านฉลอง

              จนกฐินสิ้นแม่น้ำในลำคลอง               มิได้ข้องเคืองขัดหัทยา

          ข. ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด                 คิดถึงบามบพิตรอดิศร

              โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร        แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น

          ค. เคยหมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตรลบ         ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา

              สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธา                  วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์

          ง. เห็นโศกใหญ่ใกล้น้ำระกำแฝง              ทั้งรักแซงแซมสวาทประหลาดเหลือ

              เหมือนโศกพี่ที่ช้ำระกำเจือ                เพราะรักเรื้อแรมสวาทมาคลาดคลาย

14. คำที่พิมพ์ตัวหน้าในข้อใดมีความหมาย ต่าง กับข้ออื่น

          ก. สิ้นแผ่นดินขอให้สิ้นชีวิตบ้าง               อย่ารู้ร้างบงกชบทศรี

          ข. แสนเสียดายหมายจะชมบรมธาตุ         ใจจะขาดคิดมาน้ำตาไหล

          ค. โอ้ปางหลังครั้งสมเด็จบรมโกศ             มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น

          ง. โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร         แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น

15. ข้อใด ไม่ได้ สอนเรื่องศีล 5

          ก.       ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก     สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน

              ถึงเมาเหล้าเช้าสายยังหายไป             แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน

          ข.       ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์           มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

              แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร             จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา

          ค.       งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม            ดังขวากแซมเสี้ยมแทรกแตกไสว

              ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย                ก็ต้องไปปีนต้นน่าขนพอง

          ง.        ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง        มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา

              โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา           ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย