สรุปการใช้ if else ในภาษา Python
คำสั่ง if else ในภาษา Python ใช้ควบคุมการทำงานของโปรแกรมให้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้างพื้นฐาน:
if เงื่อนไข:
# บล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
else:
# บล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง
ตัวอย่าง:
age = 20
if age >= 18:
print("คุณบรรลุนิติภาวะแล้ว")
else:
print("คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ")
คำอธิบาย:
- a
ge
คือตัวแปรที่เก็บค่าอายุ age >= 18
คือเงื่อนไข หมายความว่า อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 18 ปีprint("คุณบรรลุนิติภาวะแล้ว")
คือบล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง หมายความว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณบรรลุนิติภาวะแล้ว”print("คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ")
คือบล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง หมายความว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ”
คำสั่ง elif:
ใช้เพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติม จำเป็นต้องมีคำสั่ง if นำมาก่อน ,, โดยที่ elif จะเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมจากคำสั่ง if ซึ่งจะทำงานก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน if เป็นเท็จ แล้วจึงมาตรวจสอบเงื่อนไขถัดมาใน elif ที่ได้กำหนดไว้
ตัวอย่าง:
age = 25
if age >= 65:
print("คุณเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว")
elif age >= 20:
print("คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว")
else:
print("คุณยังเป็นเด็ก")
คำอธิบาย:
- a
ge
คือตัวแปรที่เก็บค่าอายุ age >= 65
คือเงื่อนไข หมายความว่า อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 65 ปีprint("คุณเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว")
คือบล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง หมายความว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว”age >= 20
คือเงื่อนไข หมายความว่า อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 20 ปีprint("คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว")
คือบล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง หมายความว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว”print("คุณยังเป็นเด็ก")
คือบล็อกโค้ดที่จะทำงานเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง หมายความว่า โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณยังเป็นเด็ก”
การซ้อน if else:
สามารถทำการซ้อนคำสั่ง if เข้าไปในคำสั่ง if else ได้เช่นเดียวกัน
ตัวอย่าง:
number = 10
if number > 0:
if number % 2 == 0:
print(f"{number} เป็นจำนวนคู่")
else:
print(f"{number} เป็นจำนวนคี่")
else:
print(f"{number} ไม่ใช่จำนวนบวก")
คำอธิบาย:
- number คือตัวแปรที่เก็บค่าตัวเลข
number > 0
คือเงื่อนไข หมายความว่า ตัวแปร number มีค่ามากกว่า 0number % 2 == 0
คือเงื่อนไข หมายความว่า ตัวแปร number หาร 2 แล้วมีเศษเป็น 0 ( % คือตัวดำเนินการการหารเอาเศษ )- print(f”{number} เป็นจำนวนคู่”) คือการแสดงค่าในตัวแปร number พร้อมคำว่า เป็นจำนวนคู่
print(f"{number} เป็นจำนวนคี่")
คือการแสดงค่าในตัวแปร number พร้อมคำว่าเป็นจำนวนคี่
- print(f”{number} ไม่ใช่จำนวนบวก”) คือการแสดงค่าในตัวแปร number พร้อมคำว่า
ไม่ใช่จำนวนบวก
- การทำงานของเงื่อนไข number % 2 == 0 นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เงื่อนไขของ if ด้านนอกคือ number > 0 เป็นจริง