ข้อสอบ วิชาภาษาไทย เรื่อง วิวิธภาษา (เพื่อนกัน) ชั้น ม.1 จำนวน 20 ข้อ พร้อมเฉลย
1. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้นไม่ชอบปู่
ก. ปู่ชอบทำโทษต้นอย่างไม่มีเหตุผล
ข. ปู่ชอบพูดเปรียบเทียบต้นกับไอ้แจ้
ค. ปู่พูดตลอดเวลาเหมือนเทปที่เปิดค้างไว้
ง. ปู่ชอบถามต้นว่าทำอะไร จะไปไหน ไปทำไม ไปกับใคร
2. ไอ้แจ้กับปู่มาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
ก. ปู่ซื้อมาเพราะอยากมีเพื่อน
ข. พ่อซื้อมาให้เป็นเพื่อเล่นกับปู่
ค. เป็นลูกของไก่ที่ปู่เลี้ยงไว้แล้วตายไป
ง. ไอ้แจ้บินมาเกาะที่ต้นมะม่วงตอนน้ำท่วม ปู่เห็นจึงเอามาเลี้ยง
3. เพราะเหตุใดปู่จึงสั่งให้แม่อั้วเอาเปลือกผลไม้มาทิ้งในหลุมที่ขุดไว้ตรงต้นมะม่วง
ก. เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
ข. เพื่อให้ไอ้แจ้กินเป็นอาหาร
ค. เพื่อไม่ให้ถังขยะส่งกลิ่นเหม็น
ง. เพื่อแบ่งเบาภาระไม่ให้อั้วต้องขนขยะในถังไปทิ้ง
4. ข้อใดกล่าวถึงสวนของปู่ได้อย่างถูกต้อง
ก. บริเวณที่ปู่ใช้ปลูกผักสวนครัว
ข. ผลผลิตจากสวนสร้างรายได้จำนวนมากให้ปู่
ค. ต้นไม่ชอบสวนนี้จึงไม่เคยเข้าไปเก็บอะไรกิน
ง. ปู่อนุญาตให้ต้นเข้าไปเก็บอะไรในสวนกินก็ได้
5. เวลาปู่เล่าเรื่องไอ้แจ้ให้คนอื่นฟัง ต้นมักจะดึงมือให้ปู่กลับบ้านเพราะอะไร
ก. อิจฉาที่ปู่พูดถึงแต่ไอ้แจ้
ข. ปู่ชอบพูดโกหกเรื่องไอ้แจ้
ค. รู้ว่าคนฟังรำคาญเรื่องที่ปู่เล่า
ง. ไม่อยากให้ปู่พูดเปรียบเทียบกับไอ้แจ้
6. เหตุใดปู่จึงยกให้ไอ้แจ้เป็นพี่ของต้น
ก. ไอ้แจ้เรียนรู้ไว
ข. ไอ้แจ้กตัญญูกว่าต้น
ค. ไอ้แจ้อายุมากกว่าต้น
ง. ปู่รักไอ้แจ้มากกว่าต้น
7. “เพื่อนบ้านเขารู้กันทั่วว่าบ้านเรามีพ่อลูกสองคู่” คำว่า “พ่อลูกสองคู่” หมายถึงอะไร
ก. ปู่กับต้น และปู่กับไอ้แจ้
ข. ปู่กับพ่อ และปู่กับไอ้แจ้
ค. ปู่กับไอ้แจ้ และพ่อกับต้น
ง. พ่อกับต้น และต้นกับไอ้แจ้
8. เหตุใดต้นจึงคิดว่าไอ้แจ้รู้ว่าปู่รักมัน
ก. ไอ้แจ้ตามติดปู่ไปทุกที่
ข. ไอ้แจ้ชอบทำท่าเยาะเย้ยต้น
ค. ไอ้แจ้มักทำท่าเหมือนกำลังฟังปู่พูด
ง. ไอ้แจ้ชอบนั่งบนตักปู่เพื่อให้ปู่ลูบหัวมัน
9. ต้นไม่พอใจพ่อเรื่องอะไร
ก. พ่อหาว่าต้นอิจฉาไอ้แจ้
ข. พ่อตำหนิต้นที่ไม่เชื่อฟังปู่
ค. พ่อลงโทษต้นที่ไล่เตะไอ้แจ้
ง. พ่อบังคับให้ต้นทำดีกับปู่ให้มาก ๆ
10. ต้นได้รับผลอย่างไรจากการไล่เตะไอ้แจ้
ก. ถูกแม่ดุ
ข. พ่อลงโทษต้น
ค. ไอ้แจ้ไล่จิกต้น
ง. ปู่ให้ต้นขอโทษไอ้แจ้
11. “เกเรใหญ่แล้วนะต้น ฮอร์โมนเหลือหรืออย่างไร” หมายความว่าอย่างไร
ก. ต้นเกเรจนทำให้แม่เครียด
ข. ต้นเกเรเหมือนเด็กเหลือขอ
ค. ต้นมีความผิดปกติของร่างกาย
ง. ต้นเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว ทำให้เป็นคนเลือดร้อนมากขึ้น
12. ข้อใด ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากต้นได้ฟังคำพูดนี้ของแม่ “ต้นรู้ไหม ไอ้แจ้นี่ ถ้าเทียบกับอายุคน มันก็คงเท่าปู่นั่นแหละ”
ก. ต้นรู้สึกดีและสงสารไอ้แจ้มากกว่าเดิม
ข. ต้นรู้สึกว่าตัวเองใจร้ายที่เคยรังแกไอ้แจ้
ค. ต้นหมั่นทำดีกับไอ้แจ้ให้ปู่เห็น เพื่อให้ปู่สบายใจ
ง. ต้นเห็นว่าไอ้แจ้ก็อยู่ในช่วงวัยชราเช่นเดียวกับปู่
13. อาการป่วยของไอ้แจ้ก็อยู่ในช่วงวัยชราเช่นเดียวกับปู่
ก. ต้นเลิกหมั่นไส้ไอ้แจ้
ข. ต้นไม่รำคาญเสียงปู่
ค. ต้นเสียใจที่ไอ้แจ้ตาย
ง. ต้นกับปู่ได้สมานฉันท์กัน
14. ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับข้อคิดเรื่องวัยรุ่นที่ได้จากเรื่องเพื่อนกัน
ก.วัยรุ่นไม่ชอบให้ใครดุว่า
ข. วัยรุ่นชอบเอาอกเอาใจผู้สูงอายุ
ค. วัยรุ่นไม่ชอบถูกเปรียบเทียบกับคนอื่น
ง. วัยรุ่นรักความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง
15. ชื่อเรื่องเพื่อกัน สอดคล้องกับข้อคิดสำคัญจากเรื่อง ยกเว้น ข้อใด
ก. คนกับสัตว์พึ่งพาอาศัยและเป็นเพื่อนกันได้
ข. คนต่างวัยกันสามารถเป็นเพื่อนที่รักและช่วยเหลือกันได้
ค. เพื่อนที่ดีที่สุดคือสมาชิกในครอบครัว ไม่ใช่คนที่อยู่นอกบ้าน
ง. ความเป็นเพื่อนสร้างได้จากความเมตตา เข้าใจ และเห็นใจจากผู้อื่น
16. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องเพื่อนกัน
ก. คนต่างวัยและคนกับสัตว์สามารถเป็นเพื่อนกันได้
ข. หากมีเพื่อนคบไม่มากก็หันมาทำดีกับคนใกล้ตัว
ค. วัยรุ่นควรเข้าใจว่าที่ผู้ใหญ่คอยถามจ้ำจี้จ้ำไชก็เพราะเป็นห่วง
ง. ผู้ใหญ่ควรรู้นิสัยของวัยรุ่นเพื่อจะเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
17. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ภาษาพูด หมายถึง ภาษาทุกระดับที่ใช้ในการพูด
ข. ภาษาเขียน หมายถึง ภาษาระดับเป็นทางการที่ใช้ในการเขียนเท่านั้น
ค. ภาษาระดับกันเองหรือภาษาปาก เป็นภาษาที่ไม่ควรใช้ในงานเขียนทุกประเภท
ง. ภาษาราชการ หมายถึง ภาษาที่ทางราชการกำหนดขึ้นเป็นแบบฉบับการเขียนหนังสือทางราชการ
18. ข้อใดยกตัวอย่างแล้วอธิบายความเป็นภาษาพูดได้ ไม่ถูกต้อง
ก. “ผมว่าตอนนี้ปู่ชักจะพูดมากไปสักหน่อย” เป็นภาษาที่มีน้ำเสียงตำหนิ จึงไม่ถือว่าเป็นภาษาเขียน
ข. “ไม่ว่าผมจะทำอะไร จะไปไหนมาไหน ปู่เป็นต้องถามอยู่นั่นแล้วว่าผมจะไปไหน” สำนวนในภาษาพูด (คำที่พิมพ์ตัวหนา) ซึ่งตัดทิ้งได้
ค. “เพราะเป็นครั้งแรกนะครับที่มีคนมาบอกผม” คำลงท้ายแสดงความสุภาพในภาษาพูดจะไม่ปรากฏในภาษาเขียน ในที่นี้หมายถึงคำว่า “นะครับ”
ง. “ผมละหมั่นไส้ไอ้แจ้ของปู่จริง ๆ” เป็นภาษาที่ยังไม่ได้ตกแต่งเรียบเรียงเป็นพิเศษ อาจเรียบเรียงใหม่ได้เป็น “ผมรู้สึกขวางหูขวางตาเจ้าแจ้ของปู่มาก”
19. คำว่า “ยังไง ยังงี้ มั้ย” แก้เป็นรูปเขียนได้อย่างไรตามลำดับ
ก. อย่างไง อย่างงี้ ไหม
ข. อย่างไร อย่างนี้ ไหม
ค. อย่างไหน อย่างนี้ ไม่
ง. อย่างไหน อย่างนี้ ไหม
20. ข้อใดมีคำที่รูปเขียน ไม่ ตรงกับเสียงในภาษาพูดจำนวนมากที่สุด
ก. เธอไม่รู้ได้ไงว่าเค้าอยู่มั้ย
ข. เดี๊ยนของซื้อเสื้ออย่างนี้ตัวนึง
ค. ดิชั้นเชื่อว่าซักวันคุณจะกลับมา
ง. ฝนตกหนักมากรึถึงต้องไปค้างบ้านช่องคนอื่นเค้า
เฉลยคำตอบ
ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ | ข้อ | คำตอบ |
1 | ก | 6 | ก | 11 | ง | 16 | ข |
2 | ง | 7 | ค | 12 | ค | 17 | ง |
3 | ก | 8 | ค | 13 | ค | 18 | ก |
4 | ก | 9 | ก | 14 | ข | 19 | ข |
5 | ง | 10 | ก | 15 | ค | 20 | ก |